เปรียบเทียบการผ่าตัดแปลงเพศ แบบใช้ลำไส้ กับ ผนังหน้าท้อง

          การสร้างช่องคลอดจากผนังหน้าท้องด้านใน (PPV) และการสร้างช่องคลอดจากลำไส้ เป็นเทคนิคการผ่าตัดศัลยกรรมที่สร้างช่องคลอดให้หญิงข้ามเพศ และผู้หญิงที่มีไม่มีช่องคลอดมาแต่กำเนิด หรือมีช่องคลอดผิดปกติ เทคนิคการสร้างช่องคลอดจากเยื่อบุผนังหน้าท้องด้านในของคนไข้มาม้วน ดึงลงมาทำเป็นช่องคลอด โดยทำเยื่อบุหน้าท้องให้เป็นโพรงจากช่องท้องถึงกระดูกเชิงกราน เยื่อบุผนังหน้าท้องเป็นเนื้อเยื้อคล้ายเนื้อเยื่อของช่องคลอดซึ่งมีน้ำหล่อลื่นในตัวเอง และยืดหยุ่นได้เหมือนช่องคลอดในเพศหญิง

          การสร้างช่องคลอดด้วยลำไส้จะใช้ลำไส้ใหญ่ของคนไข้มาทำเป็นช่องคลอดโดยตัดเอาลำไส้ใหญ่ที่โค้งเป็นตัวเอส หรือ Sigmoid Colon มาประมาณ 8-10 นิ้ว พร้อมกับเส้นเลือดและเส้นประสาท (perineum) ด้านหนึ่งเย็บเชื่อมกับปากช่องคลอดอีกด้านหนึ่งเย็บปิดปลายช่องคลอด ลำไส้ใหญ่ด้านในจะมีต่อมสร้างน้ำเมือก น้ำหล่อลื่นในตัวเองตลอดเวลา และยืดหยุ่นได้ดีมาก การสร้างช่องคลอดด้วยผนังหน้าท้องด้านในและด้วยลำไส้ต่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียในเวลาเดียวกัน การจะเลือกใช้เทคนิคใดนั้นจะขึ้นอยู่กับสรีระร่างกายของคนไข้ และการวินิจฉัยของศัลยแพทย์ 

          การสร้างช่องคลอดด้วยผนังหน้าท้องด้านในยังเป็นเทคนิคใหม่และไม่มีงานวิจัยรองรับในหญิงข้ามเพศ แต่เทคนิคนี้ก็ใช้กันมากว่า 45 ปีในชื่อของ Davydov technique ซึ่งนำผนังหน้าท้องมาทำเป็นช่องคลอดให้กับผู้หญิงที่มีช่องคลอดผิดปกติหรือเกิดมาไม่มีช่องคลอด การสร้างช่องคลอดด้วยผนังหน้าท้องจะต้องมีการขยายช่องคลอด การสร้างช่องคลอดด้วยผนังหน้าท้องไม่เหมาะกับคนไข้ที่มีอวัยวะเพศเล็กซึ่งจะมีผิวหนังที่มาทำช่องคลอดไม่เพียงพอ หรือเคยมีประวัติผ่าตัดในช่องท้องมาก่อนซึ่งการผ่าตัดในช่องท้องจะทำให้เกิดพังผืด และแผลเป็นในช่องท้อง การผ่าตัดดึงเอาผนังหน้าท้องจะทำได้ยากลำบาก หรือมีไขมันในช่องท้องมากเกินไป จะทำให้ไขมันในช่องท้องไปบดบังผนังหน้าท้อง ทำให้การผ่าตัดลอกเอาผนังหน้าท้องออกมายาก

          การสร้างช่องคลอดด้วยลำไส้จะทำให้ได้ช่องคลอดที่ลึกที่สุดประมาณ 7-9 นิ้ว (16- 22 เซนติเมตร) ช่องคลอดไม่ได้มีกลิ่นเหม็นตามคำร่ำลือ สาเหตุที่มีกลิ่น อาจเกิดจากการทำความสะอาดในช่องคลอดไม่ดีพอ การผ่าตัดลำไส้ใช้เวลาพักฟื้นนานกว่า เนื่องจากต้องรอให้ลำไส้กลับมาเคลื่อนไหวเป็นปกติก่อน จึงจะรับประทานอาหารเป็นปกติ โดยเริ่มจากการจิบน้ำ ถ้าท้องไม่อืด จึงค่อยกินอาหารเหลว อาหารอ่อน และเข้าสู่อาหารปกติ  การสร้างช่องคลอดด้วยลำไส้แบบแผลหน้าท้องจะมีรอยแผลเป็น 5-10 เซนติเมตร ส่วนแบบผ่าตัดด้วยกล้องจะมีรูเจาะ 4 รูที่หน้าท้องเหมือนการสร้างช่องคลอดด้วยผนังหน้าท้องด้านใน แต่มีข้อดีกว่าตรงที่หลังผ่าตัด คนไข้จะฟื้นตัวเร็วกว่า รับประทานอาหารได้เร็วกว่า โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการทำงานของลำไส้ ความลึกของช่องคลอดแบบผนังหน้าท้องจะขึ้นอยู่กับ ปริมาณผิวหนังของอวัยวะเพศชายด้วย

          การสร้างช่องคลอดด้วยผนังหน้าท้องด้านในและการสร้างช่องคลอดด้วยลำไส้ต่างก็มีทั้ง่ข้อดีและข้อเสีย การจะใช้เทคนิคใดนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ และแพทย์ที่จะตัดสินใจร่วมกัน

          การสร้างช่องคลอดด้วยผนังหน้าท้องด้านในและการสร้างช่องคลอดด้วยลำไส้มีขั้นตอนมากมาย คนไข้ต้องเข้ารับการประเมินก่อนผ่าตัด และการดูแลหลังผ่าตัด เพื่อให้ได้ผลการผ่าตัดที่ดีที่สุด