ผ่าตัดกระชับช่องคลอด (รีแพร์)
เป็นวิธีการในการรักษาภาวะหย่อนคล้อยของผนังช่องคลอดหรือภาวะช่องคลอดหลวม ที่ทำให้มีก้อนโผล่ออกมาบริเวณปากช่องคลอด ซึ่งอาจเกิดจากลำไส้ดันผนังช่องคลอดทางด้านหลังหรือผนังช่องคลอดด้านหน้าที่หย่อนออกมาจนเกิดมีอาการปัสสาวะเล็ด ซึ่งสาเหตุเกิดเนื่องจากโครงสร้างต่างๆที่พยุงอุ้งเชิงกรานนั้นเสื่อมตัว
สาเหตุ ได้แก่
- อายุที่มากขึ้น
- การคลอดบุตรหลายคนหรือใช้เวลาในการคลอดนานและมีการช่วยเหลืออื่นๆในการคลอดเช่นใช้คีมช่วยคลอด
- ในคนที่มีอาการท้องผูกเรื้อรังและมีการเบ่งนานๆ
- เกิดตามหลังการตัดมดลูก เพราะการตัดมดลูกทําให้มีการตัดหรือเกิดการทําลายโครงสร้างต่างๆรวมทั้งเอ็นและเนื้อเยื่อที่อยู่รอบๆปากมดลูก
- ในเคสที่มีเพศสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง
- คนอ้วน
- คนที่ยกของหนักเป็นประจำ
อาการ
- มีเสียงคล้ายผายลมออกจากช่องคลอดขณะมีเพศสัมพันธ์
- เวลามีเพศสัมพันธ์จะถึงจุด Climax ยากหรือไม่ถึงเลย
- กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ มีปัสสาวะเล็ดขณะไอ จาม กระโดด วิ่ง
- มีก้อนตุงบริเวณปากช่องคลอด
- ปวดท้องน้อยขณะมีเพศสัมพันธ์,
- ท้องผูกเรื้อรัง
- กลั้นผายลมไม่อยู่
การผ่าตัดรักษาและระยะเวลาการผ่าตัด
เป็นการผ่าตัดเอาผนังช่องคลอดส่วนเกินทั้งด้านหน้าและด้านหลังของผนังช่องคลอด (ขึ้นกับการพิจารณาความรุนแรงของรอยโรค) ออกไปบางส่วนแล้วเย็บกล้ามเนื้อและผนังช่องคลอดเข้าหากันเพื่อให้กระชับ ด้วยวิธีการนี้จะทำให้ภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนดีขึ้น และในขณะเดียวกันก็ทำให้ช่องคลอดกระชับขึ้นด้วย
การผ่าตัดทำภายใต้การดมยาสลบในห้องผ่าตัดใหญ่ใช้เวลาในการผ่าตัด 1-2 ชั่วโมง หลังผ่าตัดต้องใส่ท่อสวนปัสสาวะไว้ประมาณ 48 ชั่วโมง (นอนโรงพยาบาล 2 คืน) เพื่อลดแรงดันในกระเพาะปัสสาวะ
รูปภาพที่ 1. การผ่าตัดรีแพร์ช่องคลอดด้านหน้า
รูปภาพที่ 2. การผ่าตัดรีแพร์ช่องคลอดด้านหลัง
เคสที่ควรได้รับการรักษา
- มีปัญหาช่องคลอดหลวมและมีเสียงลมขณะมีเพศสัมพันธ์
- มีอาการปัสสาวะเล็ดเวลาไอ จาม กระโดด
- มีก้อนตุงมาที่ปากช่องคลอด
- มีปัญหาในการมีเพศสัมพันธ์เช่นการไม่ถึงจุด Climax
การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดหรือก่อนมาพบแพทย์
- ในกรณีที่มีโรคประจำตัวให้นำยาที่ใช้ประจำมาพบแพทย์ด้วย และถ้ามีผลเลือดตรวจสุขภาพหรือที่เกี่ยวข้องกับโรคประจำตัวให้นำผลเลือดมาพร้อมกัน
- งดน้ำงดอาหารก่อนเวลาผ่าตัดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
- ในกรณีที่มีการใช้ยาละลายลิ่มเลือดเป็นประจำ ให้ปรึกษาแพทย์ประจำเรื่องการหยุดยาก่อนการผ่าตัด
การพักฟื้นหลังผ่าตัด
- สามารถอาบน้ำและเดินได้ปกติหลังเอาท่อปัสสาวะออก
- หลีกเลี่ยงการใช้สายฉีดชำระในบริเวณนั้นในช่วง 1-2 สัปดาห์
- งดการว่ายน้ำและการมีเพศสัมพันธ์ 6-8 สัปดาห์
- สามารถกลับไปทำงานภายใน 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
การดูแลแผลหลังผ่าตัดรีแพร์
- แพ็คผ้าก๊อซซับเลือดในช่องคลอดไว้ 24 ชั่วโมง
- หลังจากการผ่าตัด 2-3วันแรก อาจจะมีอาการรู้สึกเหมือนอยากขับถ่ายบ่อยๆ เนื่องจากมีการเย็บผนังช่องคลอดอยู่ใกล้กับลำไส้ใหญ่ ปัญหานี้จะดีขึ้นด้วยการพักผ่อนอย่างเพียงพอร่วมกับการได้รับยาระบาย
- หลังผ่าตัด 2-3 วัน ถอดสายปัสสาวะออก
- อาบน้ำได้หลังจากที่แพทย์ถอดสายปัสสาวะ
- หลีกเลี่ยงการทำความสะอาด อวัยวะเพศด้วยน้ำเปล่า หลังการปัสสาวะ แต่ให้ใช้ทิชชูเช็ดทำความสะอาดแทน อาจใช้น้ำได้หลังการถ่ายอุจจาระแล้ว ใช้ทิชชูเช็ดให้แห้ง และห้ามทำความสะอาดในช่องคลอดอย่างน้อย 2 อาทิตย์
- หลังผ่าตัด 2-3วัน ให้ขยับตัวเบาๆเพื่อหลีกเลี่ยงการฉีกขาดของแผล
- หลังผ่าตัด 2 สัปดาห์ อาจจะมีเลือดซึมออกมาจากช่องคลอด ควรใส่ผ้าอนามัยตลอดเวลา ในกรณีที่มีเลือดออกมาก แผลบวมแดงและมีไข้สูง ต้องติดต่อโรงพยาบาลทันที
- หลังการผ่าตัด รับประทานอาหารอ่อน เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ และหลังจากนั้นสามารถรับประทานอาหารปกติได้
- หยุดแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังการผ่าตัด เพื่อให้แผลสมานเร็ว
- อาจจะมีการตกขาว ที่มีสีเหลืองอมเขียวก็ได้ ภายหลัง หลังจากการผ่าตัด 6-8 สัปดาห์ ซึ่งอาจจะเกิดจากแบคทีเรียตามปกติที่อยู่ในช่องคลอด หรืออาจจะเกิดจากการระคายเคืองของไหมเย็บแผลในช่องคลอด
- หลังการผ่าตัด อาจจะมีอาการคันหรือระคายเคือง จากไหมที่ละลายไม่หมดให้ติดต่อพบแพทย์เพื่อตรวจและให้ยารักษาอาการคัน
ความเสี่ยงจากการผ่าตัดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ จากการรีแพร์
- เลือดออก
- การติดเชื้อ
- ผิวหนังและ คริทอริสอาจจะตายได้
- แผลในช่องคลอดฉีกขาด
- ช่องคลอดเล็กเกินไป
- ช่องคลอดทะลุเข้าลำไส้ใหญ่
- ท่อปัสสาวะตีบ