ผ่าตัดเสริมจมูก

อยากทำจมูกให้ใบหน้าดูมีมิติ ควรเลือกเสริมจมูกแบบไหนดี         

          การเสริมจมูก เป็นการศัลยกรรมยอดนิยมของทั้งหญิงและชาย เพราะจมูกคือ จุดศูนย์กลางของใบหน้า ถ้ามีจมูกที่โด่งได้รูป ใบหน้าก็จะดูมีมิติ ทำให้องค์ประกอบอื่น ๆ ของใบหน้า เด่นชัด และดูดีขึ้น แต่คนเอเชียมักจะมีปัญหาสันจมูกแบน ปีกจมูกกว้าง การศัลยกรรมจมูกให้ได้รูปทรงสวยงาม เป็นธรรมชาติ จึงเป็นที่นิยมมาก ทั้งการทำจมูกให้โด่งขึ้น และการตัดปีกจมูกเพื่อให้ปีกจมูกที่ใหญ่ดูแคบลง ผลจากการศัลยกรรมจมูก บางท่านอาจทำให้หายใจสะดวกขึ้น ลดอาการนอนกรนได้อีกด้วย

  • หากมีใบหน้าที่ดูเป็นเหลี่ยมก็ควรจะมีจมูกที่ดูอ่อนหวาน  ปลายจมูกดูมน  สันจมูกมีส่วนโค้งทำให้ใบหน้าไม่แข็งจนเกินไป 
  • หากมีใบหน้าค่อนข้างกลม เนื้อมาก ควรจะมีจมูกที่ดูโด่งชัดเจนสันค่อนข้างตรง ปลายดูพุ่งทำให้ใบหน้าดูแคบลงและมีมิติมากขึ้น
  • จมูกผู้ชายมักมีเนื้อปลายจมูกหนาและกว้างควรทำจมูกให้ปลายดูโด่งชัดเจน  สันจมูกค่อนข้างตรง หากมีสันกลางเล็กๆ (Hump) จะทำให้ใบหน้าดูเรียวและดูแข็งแรงมีพลัง
  • จมูกผู้หญิงที่เริ่มมีอายุ  ควรมีสันจมูกไม่สูงเกินไปโดยเฉพาะระหว่างดวงตาเนื่องจากไขมันใต้ผิวหนังและเนื้อกระดูกบางลง

 

เสริมจมูก ปรับรูปหน้า

การศัลยกรรมเสริมจมูกให้เหมาะสมกับใบหน้า

          การศัลยกรรมจมูก เป็นการผ่าตัดทำจมูกเพื่อเอาวัสดุเสริม (Implant) มาวางบนสันจมูก ให้ได้สันจมูกที่สูงขึ้นกว่าเดิม และมีการตัดแต่งรูปทรงที่สวยงามกลมกลืนกับส่วนอื่น ๆ ของใบหน้า แต่ในปัจจุบันวิธีการศัลยกรรมจมูกให้ดูโด่งขึ้นมีหลายวิธี เช่น การฉีดสารฟิลเลอร์ การร้อยไหมอาจจะช่วยได้เล็กน้อย แต่การผ่าตัดทำจมูกจะให้ผลที่ชัดเจนกว่า คงอยู่ถาวร และสามารถจัดรูปทรงจมูกให้เหมาะสมได้เป็นอย่างดี

ผู้ที่เหมาะกับการศัลยกรรมเสริมจมูก

  1. จมูกแบนไม่มีสัน (Saddle Nose)  จมูกสั้น (Short Nose) หรือ จมูกแหงน (Short Nose tip)
  2. มีสุขภาพร่างกาย และจิตใจดี
  3. มีความคาดหวังที่เป็นไปได้และไม่เกินจริง
  4. ไม่สูบบุหรี่จัด
  5. มีปุ่มกระดูกที่สันจมูก (ฮัมพ์) ที่สามารถศัลยกรรมจมูกได้
  6. ไม่มีโรคประจำตัว เช่น ความดัน เบาหวาน หัวใจ หรือโรคเอดส์
  7. ไม่มีประว้ติแพ้ยาชา หรือยาสลบมาก่อน
  8. อยากเสริมจมูกเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง

          จมูกคนเอเชียจะมีสันจมูกแบน ปีกจมูกแบนและกว้าง  ศัลยแพทย์จะออกแบบเพื่อปรับแก้ไขรูปทรง เพื่อเพิ่มความสูงของสันจมูก ความสูงและความยาวของปลายจมูก โดยคำนึงถึงความกว้างของมุมระหว่างแนวเส้นริมฝีปากบนและแนวเส้นปลายจมูกถึงฐานแกนจมูก (Nasolabial angle) ให้ได้องศาที่เหมาะสม เพื่อให้ได้จมูกที่เป็นธรรมชาติ

          โดยทั่วไปจมูกของผู้หญิงปลายจะอยู่ประมาณ 95-110 องศา และผู้ชาย จะอยู่ที่ 90-105  องศา ส่วนมุมระหว่างจมูกและหน้าผาก (Nasofrontal angle) ในผู้หญิงประมาณ 120-140 องศา ส่วนในผู้ชายประมาณ 140-150 องศา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพของผิวหนังและโครงสร้างของจมูกในแต่ละบุคคล

แสดงองศา  ที่เหมาะสมของจมูกที่สวยงาม ในเพศชายและหญิง

รูปที่ 1: องศาที่เหมาะสมของจมูกที่สวยงามในเพศชายและหญิง

ซิลิโคนเสริมจมูกมีเเบบไหนบ้าง?

   1.ซิลิโคนอ่อน (Silicone implant) 

ซิลิโคนอ่อน (Silicone implant) 

การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนอ่อนเป็นวิธีที่นิยมใช้กันมากที่สุด ปรับแต่งรูปทรงได้ง่าย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผิวจมูกอาจจะบางใสเป็นมันวาว หรือเห็นแกนซิลิโคนเป็นแท่ง มีโอกาสที่ซิลิโคนจะทะลุ จมูกเอียง หรือเบี้ยวได้ง่าย

ข้อดี ของการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนอ่อน

  1. เป็นวัสดุที่สามารถนำมาเหลาปรับแต่งรูปทรงได้ง่าย และมีปฏิกิริยาต่อร่างกายต่ำ
  2.  แกนซิลิโคนสามารถอยู่ในร่างกายได้นาน ในบางรายอาจคงอยู่ได้ตลอดชีวิตโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแกนใหม่
  3.  แท่งซิลิโคนที่ใช้ในการผ่าตัด (Implant Grade) ต้องมีความบริสุทธิ์ค่อนข้างสูง วัสดุมีความแตกต่างกันไปขึ้นกับแหล่งผลิต และเทคโนโลยีการผลิต รวมทั้งการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานของรัฐ เช่น  องค์การอาหารและยา  เป็นต้น
  4. ซิลิโคนที่ใช้ในการทำจมูก มีทั้งแบบสำเร็จรูปที่ได้ขึ้นรูปมาแล้ว และแบบที่แพทย์เหลาเอง

ข้อเสีย ของการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนอ่อน

  1. ต้องมาเหลาปรับแต่งรูปทรงเอง ขึ้นอยู่กับความถนัดและความชำนาญของแพทย์
  2. แกนซิลิโคนมีโอกาสเคลื่อนตัวผิดตำแหน่ง
  3. เกิดการยุบตัวของเนื้อเยื่อและเนื้อเยื่อพังผืดรัดแกน

2.ePTFE (expanded POLYTETRAFLUOROETHYLENE )

ePTFE (expanded POLYTETRAFLUOROETHYLENE )

         การเสริมจมูกด้วย ePTFE เป็นวัสดุทางเลือกมีลักษณะเป็นแกนอ่อน มีรูพรุน สีขาว ทำให้มีเนื้อเยื่อจมูก งอกแทรกเป็นเนื้อเดียวกันกับจมูก โอกาสที่จมูกจะเอียงหรือเบี้ยวจึงเกิดขึ้นได้น้อยกว่ามาก เพราะมีเนื้อเยื่องอกมาที่แกนจมูก เมื่อเสริมไปนาน ๆ จมูกจะไม่บางใส ไม่มันวาว และมีโอกาสจมูกทะลุน้อยมาก แต่วัสดุจะมีราคาแพง ปรับแต่งรูปทรงได้ยากกว่าซิลิโคน แต่ก็สามารถนำมาเหลาปรับแต่งเพื่อเสริมสันและปลายจมูกให้สูงขึ้น มีปฏิกิริยาต่อร่างกายต่ำกว่าแกนซิลิโคน เพราะผลิตจากวัสดุกลุ่มเดียวกันกับเส้นเลือดเทียมที่ใช้ในร่างกาย

ข้อดี ของการเสริมจมูกด้วย ePTFE

  1. เนื้อเยื่อจมูกสามารถงอก และแทรกเข้าไปประสานกับแกนวัสดุที่เป็นรูพรุน
  2. ผิวหนังภายนอกไม่ดูเป็นมันวาว
  3. มีปฏิกิริยาต่อร่างกายต่ำกว่าแกนซิลิโคนเพราะผลิตจากวัสดุกลุ่มเดียวกันกับเส้นเลือดเทียมที่ใช้ในร่างกาย

ข้อเสีย ของการเสริมจมูกด้วย ePTFE

  1. การเหลาปรับแต่งรูปทรงทำได้ยาก และมีขั้นตอนมากกว่า
  2. ตัววัสดุมีความแข็งแรงในการคงรูปจมูกน้อยกว่าแกนซิลิโคน
  3. มีราคาสูงกว่า
  4. การผ่าตัดซับซ้อนกว่า จึงเป็นทางเลือกเฉพาะผู้ที่ต้องการเน้นความโด่ง เนียนแบบธรรมชาติ

3. กระดูกซี่โครงอ่อน (Rib Cartilage)

3. กระดูกซี่โครงอ่อน (Rib Cartilage)

        การเสริมจมูกด้วยกระดูกซี่โครงอ่อน สามารถทำให้โด่งได้มากกว่าวัสดุอื่น จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำจมูกให้โด่งมาก แต่มีเนื้อจมูกจำกัด หรือกรณีต้องการปรับแก้จมูก เป็นการศัลยกรรมจมูกที่ต้องผ่าตัดภายใต้การดมยาสลบ และจะใช้เทคนิคการทำจมูกแบบโอเพ่นเท่านั้น

        เทคนิคการศัลยกรรมจมูกด้วยกระดูกซี่โครงอ่อน เป็นการใช้เนื้อเยื่อของตัวผู้ป่วยเอง โดยการผ่าตัดเอากระดูกซี่โครงจากบริเวณใต้ราวนม ผ่านแผลประมาณ 3 ซม. สามารถนำมาตกแต่งขึ้นรูปแล้วใช้เทคนิคการเสริมจมูกโอเพ่น (Opened Technique) แพทย์อาจใช้วัสดุอื่นในส่วนประกอบ เช่น เนื้อเยื่อพังผืด (Fascia), ePTFE, Silicone implant ร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนในแต่ละราย

                ข้อดี ของการเสริมจมูกด้วยกระดูกซี่โครงอ่อน

                1.เป็นเนื้อเยื่อของตัวเอง สามารถเสริมได้ความโด่งมากกว่าวัสดุภายนอก

                ข้อเสีย ของการเสริมจมูกด้วยกระดูกซี่โครงอ่อน

                1.ต้องมีแผลสองแห่ง

                2.ต้องผ่าตัดแบบแผลเปิด

                3.ต้องวางยาสลบเพื่อผ่าตัดเอากระดูกอ่อนออกมา

4. Customized Implant  (CT-SCAN)

Customized Implant  (CT-SCAN)

การเสริมจมูกโดยใช้เทคโนโลยีเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT-SCAN), คอมพิวเตอร์สามมิติ (3D-CT SCAN), และเครื่องพิมพ์สามมิติ (3D-Printing) นำมาใช้ร่วมกันเพื่อสร้างแกนซิลิโคนให้ตรงกับเฉพาะบุคคล (Rapid prototype implant) เป็นวัสดุที่หล่อขึ้นตาม Model เฉพาะของคนไข้ตามขนาดความสูง ความกว้างที่ต้องการ โดยจะใช้เวลาเตรียมวัสดุประมาณ 1 สัปดาห์

                ข้อดี ได้แกนซิลิโคนที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงเฉพาะบุคคล
                ข้อเสีย มีขั้นตอนมากกว่า ค่าใช้จ่ายสูงกว่าแบบซิลิโคน

5. Acellular dermal matrix (ADM) 

          เป็นเนื้อเยื่อผิวหนังชั้นใน (Dermis)ที่ได้มาจากผิวหนังบริจาคที่นำมาสกัดเอาเซลล์และผิวหนังชั้นนอกออกด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง 

ข้อดี ของการทำจมูกด้วยเนื้อเยื่อหนังชั้นใน ทำให้ได้เนื้อเยื่อที่มีปฏิกิริยาต่อร่างกายต่ำมาก สามารถนำมาเสริมบริเวณสันจมูกให้ดูเป็นธรรมชาติหรือใช้ร่วมกับแกนชนิดต่าง ๆ

ข้อเสีย คือมีโอกาสสลายตัวบางส่วน และ ราคาสูงมาก

6. เนื้อเยื่ออื่น ๆ ที่มาจากร่างกาย

          

เนื้อเยื่ออื่น ๆ ที่มาจากร่างกายของผู้เสริมจมูกเอง มักใช้ในกรณีที่ร่างกายมีปฏิกิริยาต่อต้านกับสารภายนอกร่างกาย หรือในผู้ที่มีประวัติแพ้วัสดุเทียม ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ จะใช้เนื้อเยื่อเสริมโดยตรง หรือร่วมกับการเสริมด้วยวัสดุอื่น ๆ ก็ได้ ข้อจำกัดคือ การสลายตัวของเนื้อเยื่อที่ย้ายเข้ามาในตำแหน่งใหม่ ขึ้นอยู่กับลักษณะของเนื้อเยื่อที่นำมาเสริม และทำให้มีแผลเป็นบริเวณที่เก็บเนื้อเยื่อมา ได้แก่ 

  • กระดูกอ่อนหลังหู (Ear Cartilage) มีความยืดหยุ่นคล้ายกับกระดูกอ่อนจมูก สามารถปรับแต่งรูปทรงได้ง่าย มักใช้แก้ไขความไม่สมมาตรของปีกจมูก การเสริมปลายจมูก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
  • แผ่นผิวหนังจากสะโพกหรือร่องก้น (Dermofat graft) ให้ความรู้สึกนุ่มและดูเป็นธรรมชาติ ปรับเข้ากับโครงสร้างจมูกได้ดี มักใช้แก้ไขผิวจมูกที่ดูไม่สม่ำเสมอ ช่วยเพิ่มความเรียบเนียนให้กับผิวจมูก และการเพิ่มความนูนบริเวณสันจมูก


สำหรับระยะเวลาในการผ่าตัดเสริมจมูกจะเริ่มตั้งแต่ 45 นาที - 3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่เลือกใช้ในการศัลยกรรมจมูก

เทคนิคการเสริมจมูกมีกี่เเบบ ควรเลือกทำเเบบไหนดี?

เทคนิคเสริมจมูก OPEN หรือ CLOSE

 

รูปที่ 1:แสดงการเปรียบเทียบการเปิดแผลแบบ โอเพ็น หรือ  ปิด

1. การเสริมจมูกแบบแผลในรูจมูก (Closed Rhinoplasty)

          คือการเปิดแผลภายในรูจมูกด้านบนเพื่อใส่วัสดุหรือเนื้อเยื่อเข้าไปที่ใต้รูจมูกเพื่อซ่อนแผลเป็น  อาจจะเปิดรูจมูกข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ เหมาะสำหรับการผ่าตัดเสริมจมูกที่ไม่ซับซ้อน

ข้อดี การศัลยกรรมจมูกแบบแผลในรูจมูก คือ มองไม่เห็นแผลเป็น

ข้อเสีย การศัลยกรรมจมูกแบบแผลในรูจมูก

  1. ไม่สามารถมองเห็นโครงสร้างภายในจมูกได้
  2. ไม่สามารถปรับแต่งแก้ไขโครงสร้างจมูกได้

2. การเสริมจมูกแบบเปิดแผลด้านนอก (Open Rhinoplasty)

          การเสริมจมูกแบบโอเพ่น เป็นการเปิดแผลในรูจมูกสองข้างร่วมกับเปิดแผลผ่านผิวหนังระหว่างรูจมูก เพื่อเปิดให้เห็นโครงสร้างจมูกด้านใน แพทย์สามารถมองเห็นด้านในเพื่อทำการผ่าตัดในกรณีที่ซับซ้อน หรือเพื่อปรับแก้ไขโครงสร้างจมูก มักจะใช้ในกรณีเสริมหรือแก้ไขด้วยแกน ePTFE หรือกระดูกซี่โครง การเปิดแผลแบบ Open Technique ส่วนใหญ่ต้องวางยาสลบ

ข้อดี การศัลยกรรมจมูกแบบเปิดแผลด้านนอก มองเห็นโครงสร้างจมูกด้านในได้ชัดเจน สามารถปรับโครงสร้างกระดูกจมูกได้ดี

มองเห็นโครงสร้างจมูกด้านในได้ชัดเจน สามารถปรับโครงสร้างกระดูกจมูกได้ดี

ข้อเสีย การศัลยกรรมจมูกแบบแผลเปิดแผลด้านนอก อาจจะมองเห็นแผลเป็นได้

ใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดเสริมจมูก จะใช้เวลาประมาณ 45 นาที - 3 ชั่วโมง

การเย็บอินเตอร์โดม (Interdomal Suture) คืออะไร?

          การเย็บอินเตอร์โดม (Interdomal Suture) เป็นเทคนิคการศัลยกรรมจมูกที่ช่วยปรับแต่งรูปทรงปลายจมูกให้สวยงามขึ้น โดยการเย็บกระดูกอ่อนส่วนปลายจมูกเข้าหากัน ช่วยให้ปลายจมูกดูเรียวขึ้น แคบลง และมีมิติมากขึ้น เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปลายจมูกกว้าง แบน หรือขาดความโดดเด่น รวมถึงผู้ที่ต้องการปรับปลายจมูกให้ดูเรียวขึ้นโดยไม่ต้องใช้วัสดุเสริม การเย็บอินเตอร์โดมช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และมีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากไม่ต้องตัดเนื้อเยื่อออก อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมเป็นรายบุคคล

ผ่าตัดเสริมจมูกทรงหยดน้ำกับกระดูกอ่อนหลังหูดีอย่างไร

ผ่าตัดเสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหู

ประโยชน์ของการทำจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหู

  • ช่วยเพิ่มความยาวของปลายจมูก
  • ตกแต่งปลายให้เป็นติ่งเหมือนหยดน้ำ
  • ช่วยลดความตึงของผิวปลายจมูก
  • ช่วยป้องกันซิลิโคนทะลุ

ความเสี่ยงของการทำจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหู

  • กระดูกอ่อนอาจจะสลายไปได้ ถ้าเลือดไปเลี้ยงไม่พอ
  • ผิวที่ปลายจมูกอาจจะไม่เรียบ

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมจมูก / ทำจมูก

  1. ปรึกษาแพทย์ เลือกวัสดุเสริมจมูก เลือกเทคนิค ตรวจสุขภาพ
  2. งดยา ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น Aspirin ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 5 วัน
  3. งดวิตามิน  หรือสมุนไพร ที่ทานประจำบางชนิด เช่น วิตามิน อี จะทำให้เลือดหยุดยาก
  4. หยุดการสูบบุหรี่ อย่างน้อย 7 วัน

วีธีการผ่าตัดเสริมจมูก

วีธีการผ่าตัดเสริมจมูก

  1. การระงับความรู้สึกในระหว่างผ่าตัด ส่วนใหญ่สามารถผ่าตัดด้วยยาชา ส่วนการใช้ยาสลบสำหรับกรณีผ่าตัดแบบแผลเปิด (Opened Technique) หรือการผ่าตัดที่ซับซ้อน
  2. ระยะเวลาในการผ่าตัดเสริมจมูก โดยทั่วไปสำหรับการผ่าตัดแบบปกติโดยใช้ยาชา (Closed Technique) ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 1-2 ชั่วโมง ส่วนการผ่าตัดแบบแผลเปิด หรือใช้ซี่โครง ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง

ความเสี่ยงของการศัลยกรรมจมูก

  • การติดเชื้อที่แผล (infection) หรือ การทำความสะอาดที่ไม่ได้พอ ทำให้เกิดคราบเลือดบริเวณแผลผ่าตัด เพราะฉะนั้นต้องทำแผลให้สะอาดไม่ให้มีคราบเลือดติดอยู่ตรงบริเวณแผลผ่าตัด โดยทั่วไปการผ่าตัดเสริมจมูกตามมาตรฐานการแพทย์จะมีโอกาสการติดเชื้อค่อนข้างต่ำน้อยกว่า 1% ขึ้นอยู่กับการดูแลแผลผ่าตัดของแต่ละบุคคลในช่วง 2-4 สัปดาห์แรก รวมทั้งปฏิกิริยาการตอบสนองของร่างกาย ภูมิต้านของแต่ละบุคคล
  •  เลือดคั่ง (Hematoma) ทำให้เกิดการบวมมาก หากภายใน 7 วันยังบวมใหญ่อยู่ให้กลับมาพบแพทย์เพื่อเจาะเอาเลือดเสียออก
  •  จมูกเอียง หรือเบี้ยว
  • มีโอกาสเกิดแผลเป็น
  • ผลข้างคียงจากการดมยาสลบ ในกรณีผ่าตัดแบบวางยาสลบ ผู้ป่วยอาจมีอาการคลื่นไส้ เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ อาเจียน ในช่วง 1-2 วันหลังผ่าตัด การพักผ่อนที่เพียงพอจะทำให้อาการหายเร็วขึ้น
  • อาการปวดหลังการผ่าตัด (Pain)โดยปกติจะมีอาการปวดแผลไม่มาก สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ในช่วงสัปดาห์แรก กรณีที่ผ่าตัดแบบเปิดและใช้ซี่โครง แพทย์จะให้ยาแก่ปวดแบบฉีดในช่วงวันแรกหลังผ่าตัด หลังจากนั้นสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ตามปกติ
  • อาการบวม (Edema) ในระยะ 2 สัปดาห์แรก จะสังเกตุเห็นการบวมค่อนข้างจัดเจน หลังจากนั้นการบวมจะค่อยลดลง รูปทรงจมูกจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงชัดเจนขึ้นในระยะเวลา 6 – 12 เดือน
  • เนื้อตาย (Skin necrosis) มีโอกาสเกิดน้อย ส่วนใหญ่เกิดในกรณีผ่าตัดแก้ไขเนื่องจากมีผังผืดมากและมีความผิดปกติของเส้นเลือดใต้ผิวหนัง
  • แผลแยกและมีเลือดออกผิดปกติ อาจเกิดขึ้นได้ในบางรายที่มีการแข็งตัวของเกร็ดเลือดผิดปกติหรือเลือดออกง่าย ส่วนใหญ่สามารถเย็บแผลแก้ไขได้ในช่วง 2 สัปดาห์แรก

การดูแลหลังทำศัลยกรรมจมูก

  1. การผ่าตัดทำจมูก เป็นการผ่าตัดที่ไม่ซับซ้อน สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติหลังผ่าตัด 7 วัน อาการปวดอาจจะมีบ้าง รับประทานยาแก้ปวด หรือประคบเย็น
  2. นอนศีรษะสูงช่วง 2 วันแรก เงยหน้าตรง ใช้หมอนล็อกคอ เพื่อลดการบวม 
  3. งดอาหารเค็ม  1 -2 อาทิตย์ เพื่อลดบวม
  4. ไม่ควรนอนตะแคง 2 สัปดาห์ ป้องกันการเคลื่อนตัวเอียงของแกนจมูก
  5. งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และรับประทานอาหารรสเค็มจัด,เผ็ดจัด และของหมักดอง ประมาณ 2 สัปดาห์
  6. หลังผ่าตัด 24 ชั่วโมง ล้างหน้าเบา ๆ ด้วยสบู่อ่อน
  7. ทำความสะอาดแผลผ่าตัดบริเวณ ปลายจมูกด้านที่มีแผลด้วย ไม้พันสำลีจุ่มน้ำต้มสุกให้สะอาดขจัดคราบเลือดแห้งๆออก
  8. หลังผ่าตัด 3 วัน ดึงพลาสเตอร์ที่ปิดด้านนอกออกออก
  9. เทคนิคการศัลยกรรมจมูกแบบแผลปิดไม่ต้องตัดไหม เพราะเป็นไหมละลาย แต่ถ้าเป็นการตัดปีกจมูกหรือแผลเปิด ต้องตัดไหมหลังการผ่าตัด 5-7 วัน
  10. นัดตรวจแผล 1 เดือน หลังการผ่าตัด โดยทั่วไปจมูกจะยุบบวมและเข้าที่ใช้ประมาณ1 เดือน 

การพักฟื้นหลังการผ่าตัดเสริมจมูก

          การทำจมูกเป็นการผ่าตัดที่ไม่ซับซ้อน สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติหลังผ่าตัด 7 วัน อาการปวดอาจจะมีบ้าง รับประทานยาแก้ปวด หรือประคบเย็น งดออกกำลังกายหักโหมอย่างน้อย 1 เดือน  ระวังอุบัติเหตุจากการถูกกระแทกจมูก

รูปก่อนและหลังการศัลยกรรมจมูก

รูปก่อนและหลังการผ่าตัดเสริมจมูก

รูปก่อนและหลังการผ่าตัดเสริมจมูก

รูปก่อนและหลังการผ่าตัดเสริมจมูก

รูปก่อนและหลังการผ่าตัดเสริมจมูก

รูปก่อนและหลังการผ่าตัดเสริมจมูก

รูปก่อนและหลังการผ่าตัดเสริมจมูก

รูปก่อนและหลังการผ่าตัดเสริมจมูก

รูปก่อนและหลังการผ่าตัดเสริมจมูก

รูปก่อนและหลังการผ่าตัดเสริมจมูก

รูปก่อนและหลังการผ่าตัดเสริมจมูก

ดูเพิ่มเติม 

สาระน่ารู้ การศัลยกรรมจมูก

แก้ไขผ่าตัดเสริมจมูก ด้วยกระดูกอ่อนจากซี่โครง

การเสริมจมูก มีวัสดุที่ใช้อยู่หลายชนิดเช่น ซิลิโคนแท่ง ซิลิโคนสำเร็จรูป e-PTFE และ กระดูกอ่อนจากกระดูกซี่โครง ซึ่งจะเป็นทางเลือกที่นำมาเสริมจมูกให้โด่ง ดันปลายจมูกและปรับรูปทรงจมูกที่วัสดุอื่นทำไม่ได้

เป้าหมายที่แตกต่างของ การศัลยกรรมจมูก ในแต่ละเชื้อชาติ

เป้าหมายการผ่าตัดศัลยกรรมจมูกจะแตกต่างกันไป ตามโครงสร้างของใบหน้า และเชื้อชาติ เพราะแต่ละเชื้อชาติอาจมีเอกลักษณ์ทางโครงสร้างของจมูกและใบหน้า

e-PTFE คืออะไร? แล้วทำไมใช้ e-PTFE ผ่าตัดเสริมจมูก ?

e-PTFE หรือที่รู้จักกันในนามของ Gore-Tex® เป็นวัสดุทางการแพทย์ที่ใช้มานานกว่า 30 ปี ทำจากโพลีเตตราฟลูออโรเอทิลีน (polytetrafluoroethylene)

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอรีวิว การศัลยกรรมจมูกที่โรงพยาบาลกมล

ดูเพิ่มเติม

เสริมจมูกที่ไหนดี มาทำจมูกที่โรงพยาบาลศัลยกรรมกมล

โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล ให้บริการศัลยกรรมเสริมจมูก ทำจมูก ดั้งโด่ง สวยเป็นธรรมชาติ
แผนกต้อนรับโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล
ทีมแพทย์ผ่าตัดเสริมจมูกโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล
ห้องพักหลังผ่าตัดเสริมจมูกโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล
  1. ได้รูปทรงจมูกสวยงาม เป็นธรรมชาติ ช่วยเสริมบุคลิกและความมั่นใจให้ผู้ที่ทำศัลยกรรมจมูก
  2. จมูกมีขนาดและรูปทรง รับกับใบหน้าและบุคลิกของแต่ละคน เช่นคนที่มีใบหน้าใหญ่และกว้าง จมูกก็จะค่อนข้างกว้างไม่แหลม ไม่ดูประหลาด บางคนจมูกหักมากก็สามารถปรับให้โด่งและรับกับความโค้งของหน้าผากได้ดี บางท่านเป็นนักแสดงก็อาจจะมีรูปทรงที่โดดเด่นเป็นพิเศษ
  3. แพทย์มีประสบการณ์ความชำนาญในการศัลยกรรมจมูก ปรับแต่งแก้ไขจมูก ได้หลากหลายเชื้อชาติ เป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก 
  4. ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล ทำศัลยกรรมจมูกด้วยแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่งที่มีประสบการณ์เท่านั้น
  5. ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อยหลังจากทำศัลยกรรมจมูก
  6. มีความเสี่ยงและภาวะแทรกรซ้อนหลังทำศัลยกรรมจมูกต่ำมาก
  7. วัสดุที่ใช้สำหรับเสริมจมูกได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล
  8. วัสดุที่ใช้ทำจมูก แพทย์จะเป็นผู้ออกแบบและปรับแต่งให้เหมาะกับใบหน้าของแต่ละบุคคลเท่านั้น ไม่ใช้ซิลิโคนสำเร็จรูปในการทำจมูก เพราะเราเชื่อมั่นว่าทุกคนมีโครงสร้างเฉพาะไม่เหมือนกัน ไม่สมควรถูกยัดเยียดให้ใช้ซิลิโคนสำเร็จรูปแบบเดียวกัน
  9. มีเครื่องมือแพทย์ที่เพียบพร้อม ทันสมัย พรัอมรับการทำศัลยกรรมจมูกที่หลากหลายรูปแบบ
  10. เนื่องจากเป็นสถานพยาบาล ประเภทโรงพยาบาล จึงมีห้องผ่าตัดที่สามารถดมยาสลบได้ สามารถทำการผ่าตัดปรับโครงสร้างกระดูกจมูก ที่ใหญ่มาก สูงมาก กว้างมาก หรือมีสันจมูก (ฮัมพ์) ที่สูง ให้ได้ขนาดที่เล็กลง ซึ่งจะต้องทำการผ่าตัดภายใต้การดมยาสลบเท่านั้น
  11. มีวิสัญญีแพทย์ตลอดระยะเวลาการทำการผ่าตัดทำจมูก เคสต่อเคส ไม่ใช้พยาบาลดมยาสลบ ตามมาตรฐานสากล
  12. เป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมที่ได้มาตรฐานโลก รับรองโดย JCI สหรัฐอเมริกา
  13. หลังการผ่าตัดมีห้องพักฟื้น มีพยาบาลวิสัญญีดูแลจนปลอดภัยถึงจะกลับห้องพัก หรือกลับบ้านได้
  14. สถานที่สะอาด ปลอดภัย กว้างขวาง สามารถรักษา social distancing ได้ดี มีมาตรฐานในการป้องกันการติดเชื้อและการระบาดของโรคทางเดินหายใจ เช่น COVID 19 ได้เป็นอย่างดี มีคัดกรองผู้ป่วยและมีห้องแยกผู้ป่วยแบบ Negative pressure จึงมั่นใจได้ว่าทางโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล สะอาด และปลอดภัย
 
 
 
 

World-Class_Elite_Plastic_Surgeons

World-Class_Professional_Healthcare

World-Class_Services