ปัจจุบันผู้ชายแปลงเป็นผู้หญิงด้วยการศัลยกรรมต่าง ๆ ถือเป็นเรื่องปกติ อีกทั้งยังมีหัตถการและเทคโนโลยีใหม่ ๆ รองรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนจากชายเป็นหญิง (Transwoman) มากยิ่งขึ้น นอกจากการเสริมหน้าอก หรือการผ่าตัดเปลี่ยนเสียงแล้ว อีกหนึ่งหัตถการที่จะเปลี่ยนชายเป็นหญิงได้อย่างสมบูรณ์แบบ คือ การผ่าตัดแปลงเพศ เป็นการผ่าตัดเพื่อตกแต่งอวัยวะเพศชายภายนอกให้มีลักษณะและรูปร่างเหมือนอวัยวะเพศหญิงแทบทุกอย่าง ด้วยเทคนิคผ่าตัดแบบใช้ผนังหน้าท้องด้านใน (PPV) ที่มีความปลอดภัย แลดูเป็นธรรมชาติ ตรงตามเพศสภาพจริง นอกจากนี้การผ่าตัดแปลงเพศสามารถนำไปสู่ความมั่นใจในตนเอง หรือช่วยให้คุณภาพชีวิตโดยรวมของบุคคลดีขึ้นได้อีกด้วย
การศัลยกรรมแปลงเพศชายเป็นหญิง โดยใช้ผนังหน้าท้องด้านใน
ภาพที่ 1: การกำจัดขนก่อนการผ่าตัดแปลงเพศแบบ PPV
การผ่าตัดแปลงเพศแบบใช้ผนังหน้าท้องด้านใน หรือที่เรียกว่า Penile Peritoneum Vaginoplasty : PPV เป็นการผ่าตัดแบบใช้ผนังหน้าท้องด้านในร่วมกับผิวหนังจากอวัยวะเพศชาย (PPV) เป็นเทคนิคใหม่และทันสมัยที่สุดของการผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิง โดยใช้เยื่อบุช่องท้อง (เนื้อเยื่อบริเวณช่องท้องด้านใน) ร่วมกับผิวหนังจากอวัยวะเพศชาย ทำให้ช่องคลอดที่สร้างขึ้นใหม่มีน้ำหล่อลื่นจากผนังเยื่อบุช่องท้องที่ใกล้เคียงกับช่องคลอดตามธรรมชาติของผู้หญิงโดยกำเนิด เยื่อบุช่องท้องสามารถยืดหยุ่นได้และมีน้ำเมือกหล่อเลี้ยงในตัวเองโดยปราศจากกลิ่น และสร้างช่องคลอดใหม่โดยนำผิวหนังจากอวัยวะเพศชายมาตกแต่งให้เป็นปากช่องคลอด และผนังภายในช่องคลอดบางส่วน แล้วเชื่อมต่อกับผนังเยื่อบุช่องท้องอีกบางส่วน การผ่าตัดเพื่อดึงเอาผนังหน้าท้องด้านในมาสร้างช่องคลอดนี้ จะทำการผ่าตัดโดยการส่องกล้อง ทำให้แผลมีขนาดเล็กมากและฟื้นตัวเร็ว
แม้ว่าเทคนิคผ่าตัดแปลงเพศแบบใช้ผนังหน้าท้องด้านในร่วมกับผิวหนังจากอวัยวะเพศชาย (PPV) จะเป็นเทคนิคใหม่ด้านการศัลยกรรมแปลงเพศก็ตาม แต่เทคนิคดังกล่าวนี้ก็ประสบความสำเร็จมานานหลายทศวรรษในการรักษากลุ่มอาการของโรค MRKH หรือความผิดปกติของสตรีที่ไร้ช่องคลอดตั้งแต่กำเนิด
ข้อดีของการผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิง โดยใช้ผนังหน้าท้องด้านใน (PPV)
- เทคนิค PPV สามารถเป็นทั้งเทคนิคหลักและเทคนิครองสำหรับการสร้างช่องคลอดใหม่ เทคนิคดังกล่าวนี้มีประโยชน์ต่อคนไข้ที่ได้รับการผ่าตัดแปลงชายเป็นหญิงแบบ Skin Inversion แล้วมีช่องคลอดที่ไม่ลึกมากพอ ไม่เอื้ออำนวยต่อการมีเพศสัมพันธ์ ตลอดจนคนไข้ที่ต้องการเพิ่มความลึกแบบมีน้ำหล่อลื่น สามารถทำได้ด้วยเทคนิคนี้
- ช่องคลอดใหม่จะมีสารหล่อลื่นตามธรรมชาติในตัวเอง
- ช่องคลอดใหม่สามารถยืดหยุ่นได้สูงกว่าผิวหนังทั่วไป
- ช่องคลอดใหม่ปราศจากขน
- เป็นทางเลือกของผู้ที่ไม่สามารถผ่าตัดโดยใช้ลำไส้ใหญ่มาทำผนังช่องคลอดได้ เช่น ผู้ที่มีประวัติเป็นโรค Crohn’s disease หรืออาการบวมของลำไส้ใหญ่เรื้อรัง
- มีรอยแผลเป็นเพียงเล็กน้อยจากการผ่าตัดส่องกล้อง ทั้งนี้ รอยแผลเป็นจากการเจาะรู จำนวน 4 แผล จะมีขนาดเล็กจนอาจมองไม่เห็นภายหลังการผ่าตัด 12 เดือน รอยแผลเป็นซึ่งดูคล้ายฝ้ากระจะจางลงจนอาจมองไม่เห็น หรือมองเห็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
- เทคนิคการผ่าตัดโดยใช้เยื่อบุช่องท้องมาทำช่องคลอด ได้นำมาผ่าตัดใช้กับสุภาพสตรีที่เกิดมาผิดปกติโดยไม่มีช่องคลอด (กลุ่มอาการของโรค MRKH)
ข้อเสียและข้อจำกัดของการผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิง โดยใช้ผนังหน้าท้องด้านใน (PPV)
- คนไข้อาจมีอาการอาหารไม่ย่อยนาน 1-2 สัปดาห์ ภายหลังการผ่าตัดศัลยกรรม
- คนไข้อาจมีภาวะการขับถ่ายเปลี่ยนแปลง อาทิ ถ่ายอุจจาระเป็นเมือก ท้องผูก หรือ ปวดบริเวณแผ่นหลัง (กลุ่มอาการคล้าย LAR) ในระยะ 2-3 สัปดาห์
- เทคนิค PPV ไม่เหมาะสมกับบุคคลที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรือมีไขมันที่หน้าท้อง เนื่องจากไขมันภายในสามารถปกคลุมเยื่อบุช่องท้องจนทำให้การผ่าตัดดึงผนังหน้าท้องออกมาลำบากมากยิ่งขึ้น
- หากบุคคลนั้นได้รับการขลิบหนังหุ้มปลายองคชาต หรือมีหนังหุ้มปลายองคชาตเพียงเล็กน้อย ศัลยแพทย์อาจนำผิวหนังที่ถุงอัณฑะมาทำเป็นช่องคลอดด้วย ด้วยเหตุนี้ คนไข้จึงต้องได้รับการกำจัดขนบริเวณถุงอัณฑะด้วยเลเซอร์ หรือการจี้ขน (Electrolysis) อย่างน้อย 6 เดือนก่อนการผ่าตัด
- การขยายช่องคลอดหลังผ่าตัด 2-3 สัปดาห์ อาจจะเจ็บปวดบ้าง เนื่องจากเยื่อบุช่องท้องจะไวต่อประสาทสัมผัสมากเกินไป
- ช่องคลอดใหม่จะสูญเสียความลึก หากไม่ได้รับการขยายตัวอย่างสม่ำเสมอ
- การยึดเกาะผนังช่องท้องภายในช่องคลอดหลังการผ่าตัด สามารถเกิดขึ้นได้ 1-2 % โดยประมาณ
- เนื่องจากเทคนิคผ่าตัดแปลงเพศแบบใช้ผนังหน้าท้องด้านในร่วมกับผิวหนังจากอวัยวะเพศชาย (PPV) เป็นเทคนิคใหม่ และยังขาดการศึกษาวิจัยอันยาวนาน ดังนั้น บุคคลที่เข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมจึงต้องยอมรับภาวะแทรกซ้อนที่ไม่พึงประสงค์หรือที่อาจเกิดขึ้นได้
- คนไข้จำเป็นต้องได้รับการกำจัดขนบริเวณที่จะทำปากช่องคลอด (ใต้ถุงอัณฑะ) ประมาณ 5x6 เซนติเมตร ดังแสดงในภาพที่ 1
- คนไข้อาจได้รับการสร้างช่องคลอดด้วยวิธีปลูกถ่ายลำไส้ หากเกิดภาวะแทรกซ้อน
เลือกศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมแปลงเพศระดับโลก
นายแพทย์กมล พันธ์ศรีทุม ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งและแปลงเพศระดับโลก เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ด้านการแปลงเพศมาหลากหลายเทคนิค ได้คิดค้นปรับปรุงพัฒนาเทคนิคนี้จนประสบความสำเร็จในการสร้างช่องคลอดที่มีทั้งความลึก ความยืดหยุ่น และน้ำหล่อลื่นเหมือนช่องคลอดธรรมชาติ ประสบการณ์ของการผ่าตัดแปลงเพศโดยใช้ผนังหน้าท้องร่วมกับผิวหนังอวัยวะเพศชาย (PPV) มากกว่า 1,000 เคสจากหลากหลายประเทศ หลากหลายเชื้อชาติ โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลจึงเป็นผู้นำด้านการผ่าตัดแปลงเพศแบบเทคนิค PPV เรามั่นใจว่าโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลจะสรรค์สร้างความฝันของคุณให้กลายเป็นจริง
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิง
- ปรึกษาศัลยแพทย์เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถที่จะศัลยกรรมผ่าตัดแปลงเพศได้
- ต้องมีความพร้อมทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
- ศึกษาผลการผ่าตัดแปลงชายเป็นหญิง และความเสี่ยงต่าง ๆ
- หยุดฮอร์โมน 4 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- หยุดยาจำพวกแอสไพริน ยาลดอาการอักเสบ หรือสมุนไพร ที่อาจจะทำให้เลือดออกผิดปกติ หยุดยาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือตามแพทย์สั่ง
- หยุดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อลดโอกาสเกิดเลือดไปเลี้ยงแผลไม่ดี
สาระน่ารู้ การผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิง
เปรียบเทียบการผ่าตัดแปลงเพศ แบบใช้ลำไส้ กับ ผนังหน้าท้อง
ช่องคลอดที่เกิดจากการผ่าตัดศัลยกรรมแบบใช้ผนังหน้าท้อง และ การใช้ลำไส้ใหญ่ จะมีข้อดี คือ ความหล่อลื่นในช่องคลอด เป็นธรรมชาติ มีความลึกเหมาะกับการมีเพศสัมพันธ์
ใช้ผนังหน้าท้อง เพิ่มความลึกและน้ำหล่อลื่น ให้ช่องคลอด
การแก้ไขปรับปรุงช่องคลอดที่ทำจากผิวหนัง ซึ่งเป็นเทคนิคดั้งเดิมของการผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิงในอดีต 30-40 ปีมาแล้ว จะมีช่องคลอดที่ไม่ลึก และ ไม่มีน้ำหล่อลื่น
ข้อจำกัดของการสร้างช่องคลอดด้วยผนังหน้าท้องด้านใน (PPV)
การสร้างช่องคลอดด้วยผนังหน้าท้องด้านใน (PPV) เป็นเทคใหม่ของการผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิงที่ทำให้ช่องคลอดลึกปละมีน้ำหล่อลื่นดี อย่างไก็ตามเทคนิคนี้ก็มีข้อจำกัด..
วีดิทัศน์ การผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิง
ทำไมโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล เป็นผู้นำระดับโลกด้านการผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิง (PPV)
โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลให้บริการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่ง และแปลงเพศระดับแนวหน้าของโลก ผลการผ่าตัดให้ทั้งรูปลักษณ์และความรู้สึกสัมผัสภายนอก-ภายในอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย โดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมช่องท้อง และศัลยแพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง ทั้งนี้ เทคนิค SRS-PPV มิได้นำมาใช้อย่างกว้างขวาง เนื่องจากต้องใช้แพทย์ที่มีความประสบการณ์ และความชำนาญเฉพาะทางสูงมาก
ศัลยแพทย์ของเรามีทักษะและประสบการณ์ทางด้านนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคนิคของ นายแพทย์กมล พันธ์ศรีทุม ทางด้านการผ่าตัดแปลงเพศซึ่งเป็นเทคนิคที่ซ่อนรอยแผลเป็นบริเวณแคมนอกและแคมใน ทำให้แลดูเป็นธรรมชาติและตรงตามเพศสภาพจริง เราสามารถสรรค์สร้างเพื่อสานความฝันของคุณให้เป็นจริง
การผ่าตัดแปลงเพศแบบใช้ผนังหน้าท้องด้านในร่วมกับผิวหนังจากอวัยวะเพศชาย (PPV) เป็นทั้งเทคนิคหลักและเทคนิครองในการสร้างช่องคลอดใหม่ เทคนิคดังกล่าวนี้เป็นประโยชน์กับคนไข้ที่ได้รับการผ่าตัดแปลงเพศและมีประสบการณ์เรื่องช่องคลอดไม่ลึกพอ นอกจากนี้ เทคนิคนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อบุคคลที่ต้องการให้ช่องคลอดทำงานดีขึ้น ทำให้ช่องคลอดใหม่มีสารเมือกหล่อลื่นในตัวเอง ลดความเสี่ยงต่อความผิดปกติของลำไส้เมื่อเทียบกับการผ่าตัดแปลงเพศแบบต่อลำไส้ อีกทั้ง มีรอยแผลเป็นขนาดเล็กเพียง 4 จุดบนช่องท้องจนแทบมองไม่เห็น เนื่องจากเราใช้การผ่าตัดส่องกล้อง
โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล JCI (Joint Commission International) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลกด้านการดูแลสุขภาพ ดังนั้น โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลจึงได้รับความเชื่อถือจากนานาประเทศในการเป็นผู้นำด้านศัลยกรรมตกแต่งและแปลงเพศ