ผ่าตัดเสริมโหนกแก้ม

        โหนกแก้มเป็นองค์ประกอบที่สำคัญส่วนหนึ่งบนใบหน้าส่วนกลาง การมีโหนกแก้มสูงและกว้างพอเหมาะกับขนาดรูปหน้า จะทำให้ใบหน้ามีความโค้งนูน ดูมีมิติ ทำให้หน้าดูอ่อนหวานมากขึ้น บางคนมีโหนกแก้มแบนเรียบ แม้จะมีจมูก ปาก รูปหน้าเป็นรูปไข่ที่สวยงาม ก็เหมือนสวยไม่เสร็จ ขาดมิติความงามบางอย่างไป การผ่าตัดเสริมโหนกแก้มเป็นการปรับระดับของโหนกแก้ม สำหรับผู้ที่มีโหนกแก้มต่ำและแคบ ให้โหนกแก้มสูงและกว้างขึ้น ทำให้ใบหน้าส่วนกลางมีความสมดุล อีกทั้งการเสริมหน้าผากให้มีความโหนกนูน โค้งมนได้สัดส่วนพอเหมาะ ก็มีส่วนช่วยให้ใบหน้าโดยรวมสวยงาม อ่อนหวานมากยิ่งขึ้นได้เช่นกัน

การผ่าตัดเสริมโหนกแก้ม (Cheekbone Augmentation)

        การผ่าตัดเสริมโหนกแก้ม (Cheekbone Augmentation) ศัลยแพทย์จะทำการกรีดเพื่อใส่วัสดุเสริมเข้าไป โดยทั่วไปจะทำแผลในปาก ตามแนวรอยพับของเปลือกตาล่าง หรือตามแนวไรผมบนหนังศีรษะ เพื่อลดรอยแผลเป็นที่มองเห็นได้ ซึ่งการเลือกตำแหน่งและขนาดของซิลิโคน ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่ต้องการและลักษณะใบหน้าของแต่ละบุคคล การผ่าตัดโหนกแก้มใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง โดยมีขั้นตอนดังนี้

1. ให้ยาระงับความรู้สึก แบบยาชา หรือให้ยาทางเส้นเลือด (Sedation) หรือดมยาสลบ
2. ศัลยแพทย์จะทำการเปิดแผลในปากบริเวณเหนือริมฝีปาก หรือเปิดแผลใต้ขนตาล่าง และวางซิลิโคนที่ตัดแต่งแล้วบนโหนกแก้มเดิม
3. จากนั้นเย็บปิดแผลด้วยการใช้ไหมละลาย ไม่ต้องตัด

วัสดุที่นิยมใช้เสริมโหนกแก้ม

        ปัจจุบันมีวัสดุในการเสริมโหนกแก้มหลากหลายชนิดและมีให้เลือกหลายรูปทรงด้วยกัน วัสดุที่ใช้ในการเสริมโหนกแก้มที่นิยมใช้ในทางการแพทย์มาอย่างยาวนาน มีความปลอดภัยสูง ได้แก่

• Silicone
• Gore-tex (e-PTFE)
• Medpore
• Alloderm
• PMMA (Customized Implant )
• แพทย์บางคนก็จะนิยมใช้การฉีดฟิลเลอร์ หรือการฉีดไขมันเข้าไปบริเวณโหนกแก้มแทนการเสริมด้วยวัสดุ

ผู้ที่เหมาะกับการผ่าตัดเสริมโหนกแก้ม

• ผู้ที่มีโหนกแก้มแบน บาง
• ผู้ที่ต้องการเพิ่มความคมชัดของโหนกแก้ม
• ผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อยที่โหนกแก้ม
• มีสุขภาพดี
• มีความคาดหวังที่เป็นไปได้
• ไม่สูบบุหรี่จัด

รีวิวการผ่าตัดเสริมโหนกแก้ม ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล

ดูรีวิวผ่าตัดเสริมโหนกแก้มเพิ่มเติม

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมโหนกแก้ม

• ปรึกษาแพทย์ เพื่อเลือกขนาดโหนกแก้มที่เหมาะสม ตรวจสุขภาพ ตรวจเลือด เอกซเรย์ปอด พร้อมนำยาที่รับประทานประจำไปปรึกษาด้วย เพื่อปรับยาให้เหมาะสม
• หยุดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
• หลีกเลี่ยงการรับประทานยาแอสไพริน วิตามินอี สมุนไพร หรือ ยาที่มีผลต่อการไหลของเลือด

การดูแลแผลหลังผ่าตัดเสริมโหนกแก้ม

• นอนศีรษะสูง ประคบเย็น เพื่อช่วยห้ามเลือดและลดการบวม
• ใส่ผ้ารัดหน้า อย่างน้อย 1 สัปดาห์
• รับประทานอาหารอ่อน อย่างน้อย 1 สัปดาห์
• ใช้น้ำยาบ้วนปากบ่อย ๆ ในช่วง 1 สัปดาห์แรก ในกรณีปิดแผลในปาก เพื่อช่วยให้แผลในปากสะอาด หรือทำความสะอาดแผลใต้ตาในกรณีที่แพทย์เปิดที่ใต้ตา
• ไม่ต้องตัดไหมเพราะเป็นไหมละลาย
• พบแพทย์หลังผ่าตัดเป็นเวลา 1 เดือน

ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดเสริมโหนกแก้ม

• การติดเชื้อ (Infection)
• แผลหายช้า (Poor Healing)
• เลือดคั่ง (Hematoma)
• ความเสี่ยงจากการดมยาสลบ (Risk from Anesthesia)
• มีอาการบวมแดง (Swelling)
• มีอาการชา (Numbness)
• สีผิวเปลี่ยนไป (Skin Discoloration)
• แผลเป็น (Scaring)
• ไขมันที่โหนกแก้มหายไป (Fat Loss)
• วัสดุที่ใส่เข้าไปทั้งสองข้างอาจจะไม่เท่ากัน (Cheek Implant Displacement)
• ความเจ็บ (Pain)
• ผลการผ่าตัดอาจจะไม่ถูกใจ อาจจะมีการผ่าตัดครั้งที่สองได้ (Poor Aesthetic Result)

การพักฟื้นหลังการผ่าตัดเสริมโหนกแก้ม

• หลังการผ่าตัด 7 วัน สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้
• ออกกำลังกายหลังผ่าตัด 1 เดือน
• อาบน้ำล้างหน้าได้หลังผ่าตัด 24 ชั่วโมง
• แผลในปากจะหายและการยุบบวมจะลดลง ใช้เวลาประมาณ 2 - 3 เดือน

รูปก่อนและหลังผ่าตัดเสริมโหนกแก้ม ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล

"โหนกแก้มสูง" ช่วยเสริมใบหน้าให้สวย'โดดเด่นได้อย่างไร?

"โหนกแก้มสูง" ็ และกว้างพอเหมาะกับขนาดรูปหน้า ทำให้โหนกแก้มดูอูมอิ่ม ใบหน้ามีโหนกแก้มสูงจะ มีมิติ ดูสดชื่นอ่อนเยาว์ มีเสน่ห์น่าชวนมอง

"ผ่าตัดเสริมโหนกแก้ม" ทำให้ใบหน้าสวยงามจริงหรือ ?

โหนกแก้มสูง ทำให้ใบหน้าดูอูมอิ่ม มีมิติช่วยเสริมให้ใบหน้าและดวงตาดูสดใสมีเสน่ห์ มีชีวิตชีวามากกว่า คนที่มีโหนกแก้มแบนเรียบ

"โหนกแก้มผู้หญิงและผู้ชาย" ต่างกันอย่างไร?

การผ่าตัดเสริมโหนกแก้มของผู้หญิงและผู้ชาย จะแต่งต่างกันเนื่องจาก โครงสร้างพื้นฐานของกระดูกใบหน้าแตกต่างกันตาม เพศ และฮอร์โมน

ทำไมต้องผ่าตัดเสริมโหนกแก้ม ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล