ผ่าตัดเอาเนื้อกระเพาะอาหารออก (Sleeve Gastrectomy) ต่างจาก ทำบายพาสกระเพาะอาหาร(Gastric Bypass) อย่างไร
\โรคอ้วน (Obesity) กลายเป็นปัญหาใหญ่ทั่วโลกเนื่องจากการเติบโตของการตลาด และการสนับสนุนส่งเสริมการบริโภค พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งมีผลต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ทำให้คนเป็นโรคอ้วนเยอะมาก การผ่าตัดเพื่อลดน้ำหนักจึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในหมู่คนที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว การผ่าตัดกระเพาะอาหารแบบ Sleeve Gastrectomy และการผ่าตัดกระเพาะอาหารแบบบายพาส (Gastric Bypass) เพื่อรักษาโรคอ้วนที่พบบ่อยที่สุดในปัจจุบัน การผ่าตัดกระเพาะอาหารทั้งสองวิธีที่แตกต่างกัน
การเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการผ่าตัดกระเพาะอาหารแบบ Sleeve Gastrectomy และการผ่าตัดกระเพาะอาหารแบบบายพาส (Gastric Bypass)เพื่อช่วยสนับสนุนการตัดสินใจเลือกแบบใดแบบหนึ่งให้เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการผ่าตัด ร่วมกับศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัด
การผ่าตัดกระเพาะแบบ Sleeve Gastrectomy
การผ่าตัดกระเพาะแบบ Sleeve gastrectomy เป็นวิธีการผ่าตัดเพื่อลดน้ำหนักที่มีแผลน้อยที่สุด โดยตัดกระเพาะอาหารตามแนวกระเพาะอาหาร จากบนลงล่างออกบางส่วน ปัจจุบันนิยมใช้การผ่าตัดด้วยการส่องกล้อง โดยปกติจะเจาะ รูใส่อุปกรณ์ 3-5 รู ที่หน้าท้อง ทำให้มีแผลเป็นเล็กมาก การผ่าตัดเนื้อกระเพาะอาหาร แล้วดึงเอาเนื้อกระเพาะอาหารออก ผ่านทางรูที่เจาะเอาไว้บริเวณหน้าท้อง เย็บแผลในกระเพาะ ให้แน่น ป้องกันการรั้วของอาหารและ น้ำย่อยเข้าสู่ช่องท้อง อาจเกิดการติดเชื้อในช่องท้องได้ และหลังการผ่าตัดกระเพาะอาหาร จะมีรูปร่าง และขนาดที่ลดลง จะรับประทานอาหารได้น้อยลง ส่งผลทำให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
ข้อดีของการผ่าตัดกระเพาะอาหารแบบ Vertical Sleeve Gastrectomy
- เป็นการผ่าตัดแบบส่องกล้อง มีแผลเล็กขนาด 1 เซนติเมตรจำนวน 3-5 แผล และจะมองไม่เห็นแผล เมื่อเวลาผ่านไป 3-6 เดือน การผ่าตัดด้วยการส่งกล้องทำให้ใช้เวลาน้อยในการพักฟื้น และผลข้างเคียงจากการผ่าตัด น้อยกว่าการผ่าตัดลดน้ำหนักแบบอื่นๆ
- มีประสิทธิภาพ ลดน้ำหนักได้ดี และรวดเร็ว 50-60% จะลดน้ำหนักเข้าสู่ปกติภายใน 1-2 ปี
- ไม่เปลี่ยนเส้นทางระบบทางเดินอาหาร เหมือน แบบ บายพาส ซึ่งจะรบกวนการดูดซึมวิตามิน และเกลือแร่ หรือสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย
- มีความเสี่ยงจากปัญหาแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดน้อยกว่า การผ่าตัดลดน้ำหนักแบบอื่นๆ
ข้อเสียของการผ่าตัดกระเพาะแบบ Sleeve Gastrectomy
- การผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนัก แบบ ตัดเนื้อกระเพาะออก กระเพาะที่ตัดออกไปแล้วไม่สามารถกลับมาเป็นแบบเดิมได้อีก
- การผ่าตัดกระเพาะ แบบตัดเอาเนื้อกระเพาะออก น้ำหนักอาจจะลงมาในช่วงแรก แต่อาจจะกลับขึ้นมาใหม่ได้ ถ้าไม่ออกกำลังกาย หรือควบคุมอาหาร
- มีโอกาสเกิดกระเพาะอาหารตีบตันได้ เนื่องจากตัดออกไป กระเพาะเกิดการหดตัว รับประทานอาหารได้น้อย อาหารไม่ย่อย ทำให้รู้สึกอึดอัด
การผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส (Gastric Bypass)
การผ่าตัดกระเพาะแบบ บายพาส หรือ แบบ Roux-en-Y เป็นการผ่าตัดลดน้ำหนักอีกแบบหนึ่ง โดยการสร้างกระเปาะขนาดเล็ก จากกระเพาะอาหารส่วนบน และเชื่อมต่อโดยตรงกับลำไส้เล็กดังรูป วิธีนี้อาหารจะผ่านข้ามกระเพาะอาหารส่วนใหญ่ไปยังลำไส้เล็กโดยตรงเลย ที่ลำไส้เล็กส่วนแรก ส่งผลให้ปริมาณอาหารที่สามารถบริโภคได้ลดลง และจำกัดการดูดซึมของสารอาหาร และวิตามิน
ข้อดีของการผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส (Gastric Bypass)
- มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก 60-80% ประสบความสำเร็จ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว ภายใน 1-2 ปี
- ลดการปัญหาโรคที่เกิดจาก เบาหวาน ความดัน และ การหยุดหายใจเวลานอน Sleep apnea
- ,มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักดีมาก และสามารถควบคุมน้ำหนักในระยะยาวได้ดี
ข้อเสียของการผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส (Gastric Bypass)
- การผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส จะมีความซับซ้อน การตัดเนื้อกระเพาะออก (sleeve gastrectomy) .ใช้เวลาผ่าตัดนานกว่า และพักฟื้นนานกว่า
- มีความเสี่ยงหลังการผ่าตัด สูงกว่า การตัดเนื้อกระเพาะออก (sleeve gastrectomy) เช่น การรั่ว การติดเชื้อ และ เลือดออก
- มีผลเสียต่อระบบการย่อยอาหาร และ การดูดซึม สารอาหาร และ วิตามิน เกลือแร่ ที่จำเป็นต่อร่างกาย
- อาจเกิด อาการ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หลังการผ่าตัด เนื่องจาก อาหารผ่านเข้าสู่ลำไล้เล็กอย่างรวดเร็ว
- ความสามารถในการรับประทานอาหารน้อยลงไปมากเพราะมีกระเพาะอาหารที่เล็กมาก ต่อตรงกับลำไส้เล็ก จึงไม่มีที่เก็บอาหารหลังรับประทาน ต้องจำกัดการรับประทานอาหารแต่ที่จำเป็นต่อร่างกายจริงๆเท่านั้น
บทสรุป
\การผ่าตัดกระเพาะแบบ Sleeve gastrectomy และการผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส (Gastric bypass) เป็นวิธีการลดน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป คนไข้ต้องพิจารณาความต้องการและเป้าหมายก่อนตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัด คนไข้ต้องปรึกษาศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้ เพื่อเลือกวิธีการผ่าตัดกระเพาะที่ให้ผลการลดน้ำหนักที่ดีสุดเหมาะสมที่สุดกับตนเอง และเกิดผลเสียน้อยที่สุด การผ่าตัดกระเพาะเป็นเพียงวิธีการหนึ่งในการลดน้ำหนัก การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพและการดูแลรักษาสุขภาพจะช่วยให้สามารถลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว