รอยแผลที่เกิดจาก การผ่าตัดยกกระชับต้นแขน ต้องดูแลรักษาอย่างไร?
การผ่าตัดแก้ไขต้นแขนหย่อนคล้อยให้กระชับ Arm lift surgery หรือ Brachioplasty เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมผิวหนังบริเวณต้นแขนที่หย่อนคล้อยออก เพื่อปรับรูปทรงของต้นแขนให้เรียวเล็กกระชับเต่งตึง และกลมกลึงได้สัดส่วนสวยงาม โดยศัลยแพทย์อาจจะเปิดแผลยาวจากรักแร้ ถึงบริเวณข้อศอก อาจมีรอยแผลเป็นที่เกิดขึ้น หลังผ่าตัดมาก หรือน้อยขึ้นอยู่กับ เทคนิคการเย็บแผลของศัลยแพทย์ หรือ กรรมพันธ์ุของผู้ที่เข้ารับการผ่าตัด
แผลเป็นหลังการผ่าตัดเกิดจากอะไร?
แผลเป็นที่เกิดจากการผ่าตัดยกกระชับต้นแขน เกิดจากการกรีดเปิดแผลระหว่างการผ่าตัดเพื่อตัดเอาผิวหนังที่หย่อนคล้อยออกให้มากที่สุด แล้วเย็บให้ตึงกระชับ ความยาวและตำแหน่งของแผลขึ้นอยู่กับขอบเขตของการตัดผิวหนังส่วนเกินและรูปร่างของคนไข้ ศัลยแพทย์มักจะกรีดเปิดแผลที่ด้านในของต้นแขน ตั้งแต่ใต้รักแร้จนถึงข้อศอก บางครั้งแผลผ่าตัดอาจยาวไปถึงด้านหลังของรอบวงแขน
ประเภทของรอยแผลผ่าตัดยกกระชับต้นแขน
แผลเป็นจากการผ่าตัดยกกระชับต้นแขนแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ แผลเป็นแนวยาว (Linear scars) และแผลเป็นคีลอยด์ (Keloid scars)
- แผลเป็นแนวยาวจะบาง แบน และจะจางลงเมื่อเวลาผ่านไป
- แผลเป็นคีลอยด์จะนูนและหนา คัน และเจ็บปวด แผลเป็นคีลอยด์มักพบในคนที่ผิวคล้ำและเคยมีประวัติเป็นแผลคีลอยด์มาก่อน
การดูแลรักษาแผลเป็นจากการผ่าตัดยกกระชับต้นแขน
การดูแลรักษาแผลเป็นจากการผ่าตัดยกกระชับต้นแขนอาจใช้เวลานานหลายเดือน รอยแผลเป็นจะค่อย ๆ จางลงจนสังเกตเห็นได้น้อยลง คนไข้ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการผ่าตัดของศัลยแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อช่วยลดรอยแผลเป็น เช่น
- ทาซิลิโคนเจลลดรอยแผลเป็น
- รักษาแผลให้สะอาดและแห้ง
- สวมชุดรัดรูปในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด
- หลีกเลี่ยงป้องกันไม่ให้แผลถูกแสงแดดเป็นเวลานานอย่างน้อย 6 เดือนหลังการผ่าตัด เนื่องจากรังสียูวีอาจทำให้แผลเป็นมีสีเข้มขึ้นและสมานตัวช้าลง
บทสรุป
การผ่าตัดยกกระชับต้นแขนเป็นการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งที่เห็นผลได้รวดเร็วในการปรับรูปทรงของต้นแขนให้มีความเรียวเล็กลงกระชับตึงขึ้น แต่ทั้งนี้คนไข้ต้องคำนึงถึงโอกาสที่จะเกิดแผลเป็นซึ่งอาจเป็นผลมาจากการผ่าตัด ดังนั้นการปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ในการดูแลแผลจะช่วยลดรอยแผลเป็นให้เหลือน้อยที่สุดได้