พุงมีกี่แบบกันแน่นะ? เชื่อว่าหลายคนคงมีคำถามนี้ในใจเวลามองเห็นหน้าท้องของคนอื่นว่าทำไมมีลักษณะพุงที่แตกต่างกัน บางคนแม้ว่าจะมีรูปร่างที่ผอม แต่ก็มีปัญหาหน้าท้องป่อง หรือมองเห็นพุงเด่นชัด หรือบางคนที่มีรูปร่างอ้วนท้วมพุงก็ไม่ได้เป็นชั้น ๆ แต่เป็นพุงชั้นเดียวขนาดใหญ่แทน
ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักพุงแต่ละแบบกันให้ลึกซึ้งขึ้น ว่าแต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร? และจะวิธีลดพุงเหล่านี้อย่างไรให้ตรงจุด ตามมาอ่านกันได้เลย
พุงมีกี่แบบ
พุงของแต่ละคนจะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งถ้าถามว่าพุงมีกี่แบบนั้น สามารถแบ่งออกเป็น 5 รูปแบบหลัก ๆ ที่เกิดขึ้นจากสาเหตุที่ต่างกัน และมีวิธีลดพุงแต่ละแบบที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. พุงป่อง
ถ้าถามว่าพุงมีกี่แบบ และแบบไหนพบได้บ่อยที่สุดเลยก็คือพุงป่องนั่นเอง เพราะเป็นพุงที่มีลักษณะป่องในช่วงตอนกลางวัน โดยเฉพาะหลังทานอาหารมื้อใหญ่ เนื่องจากมีแก๊สในกระเพาะอาหารเยอะมากเกินไป ทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องป่อง และพุงป่องได้ในที่สุด ขณะเดียวกันผู้ที่มีอาการแพ้อาหารบางชนิดก็มีโอกาสพุงป่องได้เช่นกัน
วิธีลดพุงป่อง: สามารถทำได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เช่น ทานอาหารที่สามารถย่อยได้ง่าย มีกากใยไฟเบอร์สูงเพื่อช่วยลดอาการท้องอืด ปรับการทานอาหารให้ช้าลง เพื่อให้ร่างกายย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น รวมถึงการดื่มน้ำก่อนทานอาหารเพื่อช่วยลดแก๊สในกระเพาะอาหาร หรือหลังทานอาหารควรเดินย่อยเบา ๆ เพื่อกระตุ้นการย่อยอาหาร และช่วยลดปัญหากรดเกินในกระเพาะอาหาร
2. พุงกลม
ปัญหาพุงกลมก็เป็นพุงรูปแบบหนึ่งที่พบได้บ่อยเช่นกัน โดยจะมีลักษณะกลมป่องยื่นออกมาจากร่างกายอย่างชัดเจน สามารถพบได้บ่อยในผู้ที่มีพฤติกรรมชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลให้ท้องอืด อาหารไม่ย่อย และส่งผลเสียต่อระบบเผาผลาญทำให้ไขมันตกค้างบริเวณหน้าท้องจนกลายเป็นปัญหาพุงกลมใหญ่ในที่สุด
วิธีลดพุงกลม: ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์ให้ลดน้อยลง และหันมาดื่มน้ำเปล่า หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีประโยชน์อย่างพวกสมูทตี้ น้ำผัก น้ำผลไม้ แทนการดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดจนการออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นการเผาผลาญไขมันของร่างกายให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น
3. พุงเครียด
คนที่สงสัยว่าพุงมีกี่แบบกันแน่ จริงๆ แล้วแบ่งหลักๆ เป็น 5 แบบ สำหรับพุงแบบที่ 3 จะมีลักษณะพุงเป็นชั้น ๆ 2 หรือ 3 ชั้นนั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงลักษณะของพุงเครียดอยู่ก็เป็นได้ ซึ่งมักมีสาเหตุมาจากสภาวะจิตใจที่เครียด การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ตลอดจนการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์อย่างพวก Junk Food ของหวาน เครื่องดื่มคาเฟอีน ทำให้มีอาการท้องอืด เผาผลาญไม่ดี และลำไส้แปรปรวน จึงปรากฏเป็นลักษณะของพุงเครียดได้
วิธีลดพุงเครียด: เริ่มจากการปรับสภาพจิตใจไม่ให้เครียด ทำจิตใจให้สงบอยู่เสมอ เพื่อให้พักผ่อนได้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ รวมถึงควรออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นระบบเผาผลาญ แถมยังช่วยลดความเครียดได้ไปในตัวอีกด้วย
4. พุงหมาน้อย
พุงหมาน้อย หรือพุงที่มีลักษณะส่วนล่างของหน้าท้องป่อง หรืออาจมีความหย่อนคล้อยร่วมด้วย ซึ่งมักมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารต่าง ๆ โดยเฉพาะอาหารที่มีน้ำตาลสูง คาร์โบไฮเดรตสูงเป็นประจำ ร่วมกับขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรือมักอยู่ในท่า และในอิริยาบถเดิมนาน ๆ อย่างกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่นั่งอยู่หน้าคอมฯ ไม่ค่อยได้ขยับเขยื้อนร่างกายมากนัก มักจะเจอพุงลักษณะแบบนี้
วิธีลดพุงหมาน้อย: แน่นอนว่าสาเหตุของพุงหมาน้อยเกิดจากการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์เป็นหลัก และการขยับร่างกายน้อย ถ้าอยากลดพุงหมาน้อยก็จำเป็นต้องลดอาหารเหล่านี้ แล้วเปลี่ยนไปทานอาหารที่เน้นโปรตีน ไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย พร้อมกับหันมาออกกำลังกาย ขยับเขยื้อนร่างกายให้มากขึ้นกว่าเดิม ก็จะช่วยลดขนาดของพุงหมาน้อยที่มีได้นั่นเอง
5. พุงคนท้อง
พุงมีกี่แบบ? แบบที่ 5 เป็นแบบสุดท้ายที่พบได้เฉพาะในผู้หญิงหลังคลอดที่จะมีลักษณะหน้าท้องยื่นและหย่อนคล้อย เนื่องจากขณะตั้งครรภ์ผิวหน้าท้องเกิดการขยายตามขนาดมดลูกที่ใหญ่ขึ้น เมื่อหลังคลอดแล้วมดลูกก็ยังไม่สามารถหดตัวเข้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้บริเวณท้องมีลักษณะพุงดังกล่าว
วิธีลดพุงคนท้อง: โดยปกติแล้วปัญหาพุงคนท้องจะดีขึ้นภายใน 6 สัปดาห์หลังคลอด และเพื่อเรียกคืนหุ่นสวย ๆ ของคุณแม่ให้เร็วยิ่งขึ้น แนะนำว่าให้ออกกำลังกายเบา ๆ พร้อมกับควบคุมการรับประทานอาหารร่วมด้วย เพื่อเป็นการช่วยลดการสะสมของชั้นไขมันไปในตัว
2 วิธีลดพุงแบบเร่งด่วน
ก็ได้รู้จักกันไปแล้วเบื้องต้นว่าพุงมีกี่แบบ และแต่ละแบบนั้นมีวิธีการลดที่ถูกต้องเหมาะสมอย่างไร? แต่สำหรับใครที่ต้องการลดพุงแบบเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นพุงรูปแบบไหน ๆ ล่ะก็ ขอแนะนำ 2 วิธีลดพุงแบบเร่งด่วน ดังนี้
1. ดูดไขมัน
เพราะพุงเกิดจากไขมันส่วนเกินสะสม ฉะนั้นถ้าอยากลดพุงก็ต้องเอาไขมันเหล่านั้นออกจากร่างกาย ซึ่งวิธีลดพุง หรือลดไขมันพุงที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเลยก็คือการดูดไขมัน (Liposuction) ที่จะอาศัยนวัตกรรมทางการแพทย์ทำให้ก้อนไขมันส่วนเกินที่สะสมตามเรือนร่างแตกตัวออก และถูกดูดออกจากร่างกาย ทำให้เห็นผลการลดลงของพุงอย่างชัดเจน และมีส่วนช่วยกระชับผิวบริเวณนั้นให้เต่งตึงยิ่งขึ้นได้ไปในตัวอีกด้วย
2. ผ่าตัดไขมันหน้าท้อง
พุงที่เกิดจากไขมันส่วนเกินสะสมร่วมกับปัญหาเนื้อหน้าท้องหย่อนยาน โดยในกลุ่มคุณแม่หลังคลอด หรือผู้ที่มีอายุเยอะ ผิวกล้ามเนื้อหย่อนคล้อย การลดพุงลักษณะนี้ นอกจากการคุมอาหาร ออกกำลังกายอย่างเคร่งครัด หรือแม้แต่อาศัยเพียงแค่การดูดไขมันนั้นก็อาจจะยังไม่เพียงพอที่จะจบปัญหาพุงลักษณะนี้ได้ แนะนำเข้ารับบริการผ่าตัดไขมันหน้าท้องควบคู่ไปด้วย จะช่วยกำจัดพุงพร้อมยกกระชับผิวหน้าท้องไปในตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลับมามีรูปร่างที่กระชับ เต่งตึง สมส่วน ได้ทรวดทรงที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้นอีกครั้ง
ไม่ว่าพุงมีกี่แบบ ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะไม่ว่าจะพุงแบบไหนก็สามารถจัดการได้ เมื่อรู้ถึงสาเหตุที่แน่ชัด และเลือกใช้วิธีการลดพุงที่ตอบโจทย์ แต่ถ้าต้องการลดพุงแบบเร่งด่วน ก็สามารถอาศัยหัตถการทางการแพทย์ อย่างการดูดไขมัน หรือการผ่าตัดไขมันหน้าท้อง เข้าช่วยจัดการปัญหาพุงเหล่านี้ได้ เพื่อให้กลับมามีหุ่นสวย เป๊ะ ปังได้ในเวลาอันรวดเร็ว แบบเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน
ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลมีให้บริการดูดไขมัน และผ่าตัดไขมันหน้าท้องโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ มีความรู้ความเข้าใจในกายวิภาคเป็นอย่างดี สามารถออกแบบการรักษาเพื่อลดพุง และลดไขมันสะสมหน้าท้องได้อย่างตรงจุด พร้อมเลือกใช้นวัตกรรม หรือเครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดสูง พร้อมบริการดูแลหลังศัลยกรรมเป็นอย่างดี เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ และช่วยให้รูปร่างเพรียวสวยมีความกระชับได้อย่างมีประสิทธิภาพ รับรองเลยว่าคุณจะถูกใจในผลลัพธ์อย่างแน่นอน
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ฟรี
- ติดต่อโดยตรงที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่ง กมล
- โทร : 02-559-0155
- Line Official : @kamolhospital
- Facebook : https://www.facebook.com/kamolcosmetichospitalthai
โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่ง กมล ครบครันบริการด้านความงาม ยินดีให้บริการทุกท่านค่ะ