ซิลิโคนจมูกมีกี่แบบ เช็กให้ชัวร์ก่อนเลือกแบบที่ใช่

เนื่องจากการศัลยกรรมจมูกเป็นอีกหนึ่งหัตถการเสริมความงามปรับรูปหน้ายอดนิยมในไทย โดยแพทย์จะใส่ซิลิโคนจมูกเสริมฐานจมูกเดิมเข้าไป เพื่อปรับทรงจมูกให้ได้สัดส่วนเหมาะสม และตามความเชื่อกันว่าจมูกที่สมดุลกับใบหน้า จะช่วยเสริมโหงวเฮ้ง ปรับพื้นฐานดวงให้ชีวิตดีขึ้นได้ ซึ่งในปัจจุบันนี้ซิลิโคนจมูกก็มีหลากหลายรูปแบบให้เลือก หากใครที่กำลังสนใจเสริมจมูก แต่เลือกซิลิโคนไม่ได้ ไม่รู้จะเลือกแบบไหนดี ก็สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย 

ซิลิโคนจมูก ทำมาจากอะไร?

ซิลิโคนจมูก เป็นหนึ่งในวัสดุที่สังเคราะห์มาจากพลาสติกเกรดพรีเมียมที่ใช้ในวงการแพทย์ได้ มักเรียกกันว่า “ซิลิโคนทางการแพทย์ (Medical Grade Silicone)” โดยความพิเศษของซิลิโคนเสริมจมูก คือ สามารถเหลาปรับแต่งทรงได้ ที่สำคัญได้ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อโรคมาแล้ว ทำให้ซิลิโคนที่ได้สะอาดและปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ที่เสริมจมูกแน่นอน

ซิลิโคนจมูกมีกี่แบบ

ปัจจุบันในวงการศัลยกรรมจมูก หลายคนอาจจะเห็นว่าแต่ละสถานพยาบาลที่รับเสริมจมูกเพื่อปรับรูปหน้า มีราคาแตกต่างกันไป ส่วนหนึ่งก็อาจมีผลมาจากซิลิโคนจมูกที่ใช้เสริมนั้นมีเกรดแตกต่างกัน โดยทางการแพทย์จะแบ่งซิลิโคนเสริมจมูกออกเป็น 2 แบบใหญ่ ๆ ซึ่งมีรายละเอียดต่อไปนี้

1. ซิลิโคนจมูกสำเร็จรูป

ซิลิโคนจมูกแบบสำเร็จรูป จะเป็นซิลิโคนที่เหลาทรงจมูกมาให้แล้ว มีหลายขนาด หลายทรง ให้เลือก แพทย์ที่ทำการผ่าตัดศัลยกรรมนั้น จะนำซิลิโคนดังกล่าวมาเหลาอีกครั้งหนึ่งโดยปรับรูปทรงฐานเพียงเล็กน้อยให้เหมาะสมกับฐานจมูกเดิมของคนไข้ที่เข้ารับการผ่าตัด

ข้อดีของซิลิโคนจมูกสำเร็จรูป

• ราคาโดยทั่วไปมักถูกกว่าซิลิโคนเหลาเอง
• ใช้เวลาผ่าตัดสั้นกว่า
• เหมาะกับผู้ที่มีรูปจมูกค่อนข้างดี ต้องการปรับทรงเล็กน้อย

ข้อเสียของซิลิโคนจมูกสำเร็จรูป

• ไม่สามารถปรับแต่งทรงให้เข้ากับรูปหน้าได้เฉพาะบุคคล
• อาจมีโอกาสเบี้ยวเอียงได้มากกว่า
• ไม่ได้มีทรงให้เลือกมากนัก

2. ซิลิโคนจมูกแบบเหลาเอง

ซิลิโคนจมูกแบบเหลาเอง จะเป็นซิลิโคนที่มาในรูปของซิลิโคนแท่งสี่เหลี่ยม ซึ่งแพทย์จะต้องนำมาเหลาเอง ให้เหมาะสมกับฐานจมูกเดิมของคนไข้ที่เข้ารับการศัลยกรรมจมูก โดยซิลิโคนรูปแบบนี้ จะแบ่งออกเป็น 3 แบบ ดังนี้

1. ซิลิโคนจมูกแบบแข็ง เป็นซิลิโคนที่แพทย์จะนิยมใช้กับคนไข้ที่มีเนื้อจมูกเยอะ เนื้อจมูกหนา เพื่อป้องกันซิลิโคนที่เสริมจมูกไปทะลุออกมา เนื่องจากซิลิโคนรุ่นนี้จะแข็งมาก สามารถขึ้นรูปได้ง่ายและไม่ค่อยยุบตัว
2. ซิลิโคนจมูกแบบแข็งปานกลาง เป็นซิลิโคนที่มีความแข็งไม่มาก แต่ก็ไม่ได้อ่อนนุ่มเกินไป สามารถเหลาขึ้นทรงจมูกได้ง่าย มีความยืดหยุ่น จมูกดูไม่แข็ง ละมุนเป็นธรรมชาติ แพทย์ส่วนใหญ่จะนิยมใช้ซิลิโคนรุ่นนี้มากที่สุด
3. ซิลิโคนจมูกแบบนิ่ม เป็นซิลิโคนที่มีความนิ่มละมุน ไม่แข็งมาก แต่การยุบตัวมีมากกว่าซิลิโคนแบบแข็ง ซิลิโคนชนิดนี้เหมาะสมกับผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อย จัดแต่งทรงได้ง่าย ช่วยลดความเสี่ยงจมูกทะลุได้

สำหรับซิลิโคนจมูกแบบเหลาเอง จะมีข้อดีและข้อเสียดังนี้

ข้อดีของซิลิโคนจมูกแบบเหลาเอง

• สามารถปรับแต่งทรงให้เข้ากับรูปหน้าได้อย่างเฉพาะบุคคล
• เหมาะกับผู้ที่มีรูปจมูกซับซ้อน ต้องการแก้ไขเยอะ
• มีโอกาสเบี้ยวเอียงน้อยกว่า

ข้อเสียของซิลิโคนจมูกแบบเหลาเอง

• ราคาโดยทั่วไปมักแพงกว่าซิลิโคนสำเร็จรูป
• ใช้เวลาผ่าตัดนานกว่า
• ผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับทักษะและประสบการณ์ของแพทย์

ซิลิโคนจมูกมาจากประเทศไหนบ้าง

ซิลิโคนจมูกผลิตจากหลากหลายประเทศ ทว่าในประเทศไทย แพทย์ศัลยกรรมมักจะเลือกประเทศที่มีฐานการผลิตซิลิโคนที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน เมื่อนำมาใช้กับคนไข้แล้วไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งหลัก ๆ มี 3 ประเทศ ดังนี้

1. ซิลิโคนจมูกจากอเมริกา (USA Silicone) ซึ่งสถานพยาบาลศัลยกรรมจมูกชั้นนำ จะนิยมใช้ซิลิโคนจากที่นี่ เนื่องจากตัวแท่งของซิลิโคนเป็นขนาดที่ได้มาตรฐาน คุณภาพดี สามารถนำมาเหลาปรับแต่งทรงได้ง่าย ปลอดภัยมาก เพราะซิลิโคนมีความบริสุทธิ์มากถึง 100% เนื้อละเอียด นุ่ม ไม่แข็งมาก เหมาะสมกับเนื้อจมูกทุกแบบ
2. ซิลิโคนจมูกจากเกาหลี (Korea Silicone) เป็นซิลิโคนที่มีขนาดตามมาตรฐาน ลักษณะส่วนปลายจะนิ่ม สามารถปรับแต่งทรงจมูกปลายมนได้ดี และเนื้อซิลิโคนนุ่ม จึงเหมาะสมกับเนื้อจมูกทุกแบบเช่นกัน
3. ซิลิโคนจมูกจากญี่ปุ่น (Japan Silicone) ก็นิยมใช้ศัลยกรรมจมูกในไทยเช่นกัน ซึ่งซิลิโคนชนิดนี้ เป็นแท่งที่ได้มาตรฐาน วัสดุบางอย่างได้นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น และทำการผลิตในประเทศไทย ทำให้ราคาไม่ค่อยสูงมาก เนื้อของซิลิโคนมีความเนียนละเอียด มีความแข็งปานกลาง ไม่แข็งมาก เหมาะสมกับผู้ที่มีเนื้อจมูกพอสมควร 

วิธีเลือกซิลิโคนจมูกให้เข้ากับรูปหน้า

การเลือกทรงซิลิโคนจมูกให้เข้ากับใบหน้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อป้องกันจมูกทะลุ ปลอดภัย เข้ากับองค์ประกอบโดยรวมของใบหน้า และสามารถใช้งานจมูกแท่งที่เสริมมาได้ยาวนานหลายปี โดยการเลือกซิลิโคนให้เหมาะสมกับใบหน้านั้น มีรายละเอียด ดังนี้

1. เนื้อจมูก: คนไข้ที่มาเสริมจมูกจะมีเนื้อจมูกหนา บาง แตกต่างกันไป สำหรับคนไข้ที่มีเนื้อจมูกหนา สามารถเสริมซิลิโคนที่มีความแข็ง จะได้ทรงที่สวย เข้ารูปหน้าได้ แต่ถ้าเป็นคนไข้ที่มีเนื้อจมูกน้อย ไม่ควรใช้ซิลิโคนที่มีความแข็งในการปรับแต่ทรงจมูก แต่ควรเลือกซิลิโคนที่มีความนุ่ม เพื่อไม่ให้จมูกทะลุง่ายนั่นเอง
2. สัดส่วนบนใบหน้า: การเสริมจมูกเป็นหนึ่งในการปรับรูปหน้า ดังนั้นแพทย์จะต้องประเมินสัดส่วนบนใบหน้า เพื่อศัลยกรรมจมูกออกมา ให้มีจมูกที่สมดุล ดูสวยละมุนมากขึ้น
3. มาตรฐานและอายุการใช้งานซิลิโคน: เกรดซิลิโคนมีหลายชนิดแตกต่างกัน จำเป็นต้องเลือกซิลิโคนจมูกที่ได้ซิลิโคนเกรดทางการแพทย์ (Medical grade) ขึ้นไป เพื่อความปลอดภัยในการเสริมจมูก

ซิลิโคนจมูก อยู่ได้นานเท่าไหร่

ซิลิโคนจมูก สามารถอยู่ได้ตลอดชีพ หากไม่มีปัจจัยอื่น ๆ ไปกระทบทำให้ทรงจมูกเสียทรง หรือเกิดการติดเชื้อจนต้องเปลี่ยนจมูกแท่งใหม่ ดังนั้นคนไข้ที่เสริมจมูกไป หากดูแลรักษาอย่างดี ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนจมูกใหม่บ่อย ๆ นั่นเอง 

การเสริมจมูกช่วยปรับรูปหน้าได้ เพียงแค่ต้องเลือกซิลิโคนจมูกที่เหมาะสมกับใบหน้า ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ มีแพทย์ศัลยกรรมเฉพาะทางอย่างโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่ง กมลที่นี่เป็นโรงพยาบาลเสริมจมูก อันดับ 1 ในดวงใจของคนไทยหลายคน เพราะได้ทรงสวยถูกใจ ซิลิโคนได้มาตรฐาน แพทย์มีความชำนาญ ในราคาที่ย่อมเยานั่นเอง 

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ฟรี

ติดต่อโดยตรงที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่ง กมล

โทร : 02-559-0155

Line Official : @kamolhospital

Facebook : https://www.facebook.com/kamolcosmetichospitalthai

โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่ง กมล ครบครันบริการด้านความงาม ยินดีให้บริการทุกท่านค่ะ