นอกจากการดูดไขมัน การศัลยกรรมซิกซ์แพ็กจะช่วยให้มีรูปร่างสวยงามอย่างที่ต้องการแล้ว การผ่าตัดเสริมสะโพก เป็นการปรับรูปร่างให้มีส่วนเว้า ส่วนโค้ง มองเห็น เอว สะโพก ต้นขา ได้เด่นชัดยิ่งขึ้น ทำให้มีสะโพกผายกว้าง กระชับ ช่วยเสริมก้นให้ดูกลม และไม่ทำให้เกิดอันตรายหรือมีปัญหาแทรกซ้อนมากเมื่อเทียบกับการฉีดซิลิโคนหรือสารเหลวอื่น ๆ เข้าสู่สะโพก ซึ่งพบว่ามีการไหลของสารที่ฉีดไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ขาหรือขาหนีบ ทำให้เนื้อสะโพกแข็ง ผิดรูปร่าง มีการติดเชื้อบวมแดงเพราะเลือดไหลเวียนไม่ดี อีกทั้งการผ่าตัดแก้ไขสะโพกที่เคยฉีดซิลิโคนเหลว จะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากและซับซ้อนยิ่งขึ้น
เทคนิคการผ่าตัดเสริมสะโพก (Buttock Augmentation)
การผ่าตัดเสริมสะโพกเพื่อปรับรูปทรงสะโพกให้ดูชัดเจนยิ่งขึ้นมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว ร่างกาย และผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยทั่วไปจะอยู่มี 3 แบบ คือ
- การใช้ถุงซิลิโคน (Buttock Implants)
- การฉีดไขมันตัวเอง (Fat Graft)
- การใช้ถุงซิลิโคนร่วมกับการผ่าตัดยกกระชับ (Buttock Implants and Lift)
1. ผ่าตัดเสริมสะโพกด้วยการใช้ถุงซิลิโคน (Buttock Implants)
การใช้ถุงซิลิโคนเป็นวิธีการแรก ๆ ที่ใช้ในการศัลยกรรมเสริมสะโพก ศัลยแพทย์จะเปิดแผลบริเวณร่องก้นและใส่ถุงซิลิโคนเข้าไป เป็นวิธีที่แพทย์มักจะแนะนำเพราะปลอดภัยและได้ผลดีที่สุด วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะโพกน้อย
รูปที่ 1: การผ่าตัดเสริมสะโพกด้วยการใช้ถุงซิลิโคน
การผ่าตัดเสริมสะโพกจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการปรับรูปทรงสะโพกให้ผาย กลมกลึง กระชับสวยงาม ศัลยแพทย์จะทำการเปิดแผลบริเวณร่องก้นยาวประมาณ 4-5 เซนติเมตร จากนั้นใส่ถุงซิลิโคน (Buttocks Impaints) เป็นรูปทรงกลมหรือทรงรี แล้วแต่ความเหมาะสม เข้าไปใต้กล้ามเนื้อก้นที่อยู่ระหว่างกล้ามเนื้อส่วนนอกและส่วนกลาง เป็นเทคนิคใหม่ที่ช่วยลดปัญหาการเคลื่อนที่ของถุงซิลิโคน ที่จะทำให้ระดับของสะโพกไม่เท่ากันสองข้างและอาจเกิดพังผืดได้
ข้อดี
- สามารถผ่าตัดได้ทันทีแม้ไม่มีไขมัน
- สามารถกำหนดขนาดตามที่ต้องการได้
- เมื่อต้องการเอาออกสามารถเอาออกได้ทั้งถุงซิลิโคน
- การเสริมซิลิโคนสามารถแก้ปัญหาก้นห้อยหย่อนคล้อยได้ผลดี
ข้อเสีย
- ใช้เระยะเวลาในการพักฟื้นนานกว่าแบบอื่นๆ
- เนื่องจากเป็นวัสดุทำขึ้นมาเพื่อใช้ในทางการแพทย์ ร่างกายอาจมีปฏิกิริยาไม่ยอมรับได้
ชนิดของถุงซิลิโคนที่ใช้มีให้เลือกหลายชนิด ดังนี้
- ขนาด
- รูปทรง มีทรงกลม และ แบบหยดน้ำ
- ผิว มีแบบผิวเรียบ และ ผิวทราย
รูปที่ 2: ชนิดของถุงซิลิโคนที่ใช้เสริมสะโพก
2. ผ่าตัดเสริมสะโพกด้วยการฉีดไขมัน (Fat Graft)
การฉีดไขมันเพื่อเสริมก้น หรือเรียกอีกอย่างว่า Brazilian Butt Lift เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน ศัลยแพทย์จะทำการดูดไขมันส่วนเกินจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง เอว หรือต้นขา จากนั้นศัลยแพทย์จะฉีดไขมันเข้าไปที่สะโพก เพื่อเสริมก้นให้มีขนาดที่สวยงามมากยิ่งขึ้น วิธีนี้บางครั้งอาจทำพร้อมกับการเสริมก้นด้วยถุงซิลิโคน
รูปที่ 3: การผ่าตัดเสริมสะโพกด้วยการฉีดไขมัน (Fat Graft)
ข้อดี
- เป็นไขมันของตัวเอง
ข้อเสีย
- ไขมันที่ฉีดเข้าไปบางส่วนจะสลายไป ขนาดของก้นหลังผ่าตัดใหม่ ๆ กับหลังผ่าตัด 6 เดือนจะต่างกันมาก ต้องเติมไขมันซ้ำทุก ๆ 6-12 เดือน อย่างน้อย 2-3 ครั้ง
- ก้นสองข้างอาจจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับไขมันข้างไหนจะสลายมากกว่ากัน
- มีข้อจำกัดในเรื่องของปริมาณที่ฉีด อาจจะไม่ได้มากเท่าที่ต้องการ
- ไม่สามารถแก้ปัญหาก้นห้อยได้
3. ผ่าตัดเสริมสะโพกด้วยซิลิโคนร่วมกับการผ่าตัดยกกระชับ (Buttock Implants and Lift)
การผ่าตัดยกกระชับ เป็นการยกกระชับสะโพกที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเด้งเต่งตึงอีกครั้ง โดยการผ่าตัดนำผิวหนังส่วนที่หย่อนคล้อยบริเวณสะโพกออก จะมีแผลซ่อนอยู่ที่ขอบบิกินี่ไลน์ด้านหลัง การผ่าตัดอาจจะเป็นการผ่าตัดยกกระชับสะโพกอย่างเดียวหรือมีการเสริมด้วยถุงซิลิโคนหรือและฉีดไขมันร่วมด้วย
รูปที่ 4: การผ่าตัดเสริมสะโพกด้วยการใช้ถุงซิลิโคนร่วมกับการผ่าตัดยกกระชับ
ข้อดี
- สามารถผ่าตัดได้ทันทีแม้ไม่มีไขมัน
- สามารถกำหนดขนาดได้ตามที่ต้องการ
- เมื่อต้องการเอาออกสามารถเอาออกได้ทั้งถุงซิลิโคน
- การเสริมซิลิโคนสามารถแก้ปัญหาก้นห้อยในกรณีที่ก้นห้อยและมีหนังเหลือเยอะมาก เทคนิคนี้สามารถปรับรูปร่างของสะโพกและลำตัวได้
ผู้ที่เหมาะกับการผ่าตัดเสริมสะโพก
- สะโพกแบน เล็ก ห้อย หย่อนคล้อย
- มีความคาดหวังอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง
- มีร่างกายที่สมบูรณ์ แข็งแรง สามารถดมยาสลบได้ภายใต้ความเสี่ยงต่ำ
- มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
รีวิวผ่าตัดเสริมสะโพก ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล
ดูรูปผ่าตัดเสริมสะโพกเพิ่มเติม
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมสะโพก
- ปรึกษาศัลยแพทย์ เพื่อเลือกขนาดถุงซิลิโคนให้เหมาะสมกับรูปร่าง
- ตรวจเลือดและตรวจร่างกาย เพื่อประเมินร่างกายและความเสี่ยง
- ทานยาหรือปรับยาตามแพทย์แนะนำเพื่อเตรียมตัวผ่าตัด
- หยุดยาจำพวกแอสไพริน ยาลดอาการอักเสบ หรือสมุนไพร เพราะอาจจะทำให้เลือดออกมากขึ้นได้
ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมสะโพกด้วยถุงซิลิโคน
- ระยะเวลาในการผ่าตัดประมาณ 2-3 ชั่วโมง ภายใต้การดมยาสลบ
- นอนคว่ำดมยาสลบ
- เปิดแผลที่ร่องก้น ยาว 4-5 เซนติเมตร เปิดโพรงใต้กล้ามเนื้อสะโพกทั้งสองข้าง แล้วใส่ถุงซิลิโคนสำหรับก้นที่เลือกไว้เข้าไปจัดรูปทรงให้สวยงาม
- เย็บปิดแผล
การดูแลหลังผ่าตัดเสริมสะโพก
- ต้องระวังเรื่องการอักเสบของแผลผ่าตัดที่อยู่บริเวณร่องก้น ซึ่งจะมีความยาวประมาณ 4-5 เซนติเมตร
- หลังผ่าตัดใหม่จึงต้องนอนคว่ำหน้าอย่างน้อย 7 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้แผลแยกและช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น หลังจากนั้น สามารถนอนตะแคงสลับการนอนคว่ำ เป็นเวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์
- ใส่กางเกงยกกระชับสะโพก 1 เดือนเพื่อช่วยให้แผลสมานเร็วขึ้น
- ไปพบแพทย์ตามนัดหมายทุกครั้ง
ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหลังการเสริมสะโพก
หัตถการทุกอย่างนั้นมีความเสี่ยงเสมอ ควรรู้ว่าสามารถเกิดขึ้นได้ ถึงแม้จะได้รับการผ่าตัดอย่างดี
- แผลเป็น (Scarring)
- เลือดออก (Bleeding)
- บวม เขียวช้ำ (Bruising)
- ปวด (Pain)
- ภาวะติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด หรือติดเชื้อรอบซิลิโคน (Infection)
- สะโพกซ้ายขวา อาจจะไม่เท่ากัน (Asymmetry)
- ภาวะพังผืด (Capsular contracture) และต้องได้รับการผ่าตัดแก้ไขได้
- ซิลิโคนเหลว แตกรั่วออกจากถุงซิลิโคน (Implant leak)
- แผลหายช้า (Poor Healing)
- แผลแตก แผลแยก (Skin tears)
- ความเสี่ยงจากการดมยาสลบ (Risk from Anesthesia)
รูปก่อนและหลังผ่าตัดเสริมสะโพก ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล
สาระน่ารู้ การเสริมสะโพก
การเสริมสะโพกด้วยการฉีดไขมันมีความเสี่ยงอย่างไรบ้าง?
การผ่าตัดทุกชนิด หลังผ่าตัดอาจจะเกิดผลข้างเคียงได้ การเสริมสะโพกด้วยการฉีดไขมันของตัวเองก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งคนไข้ต้องคำนึงถึงก่อนการทำศัลยกรรม
อาการของภาวะแทรกซ้อนในการเสริมสะโพกด้วยการฉีดไขมัน
การเสริมสะโพกด้วยการฉีดไขมันได้รับความนิยมมาก เพื่อเพิ่มรูปร่างและขนาดให้กับสะโพก แต่การเสริมสะโพกด้วยการฉีดไขมันก็มีความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ดังนี้
การเสริมสะโพกด้วยการฉีดไขมันคืออะไร?
การเสริมสะโพกด้วยการฉีดไขมันเป็นการนำไขมันส่วนเกินจากส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายมาฉีดเข้าที่สะโพก เพื่อเพิ่มขนาดและรูปทรงของสะโพกให้งอนงาม เด้งสวย เซ็กซี่
ดูเพิ่มเติม
การฉีดไขมันเสริมสะโพก (Brazilian Butt Lift: BBL) คืออะไร?
การฉีดไขมันเสริมสะโพก (Brazilian Butt Lift: BBL) เป็นการศัลยกรรมเสริมความงามเพื่อเพิ่มขนาดและรูปร่างของสะโพก ด้วยการดูดไขมันจากหน้าท้อง ก้น หรือแผ่นหลังส่วนล่าง แล้วจึงฉีดไขมันเข้าที่สะโพกเพื่อเพิ่มปริมาตรและรูปทรง เป้าหมายของการฉีดไขมัน คือ การทำให้สะโพกมีเนื้อเพิ่มขึ้นและทรวดทรงดีขึ้น การฉีดไขมันต้องใช้การดมยาสลบ และดำเนินการโดยศัลยแพทย์ตกแต่งที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์
ข้อดีของการฉีดไขมันเสริมสะโพก
การฉีดไขมันเสริมสะโพกมีประโยชน์หลายประการ ได้แก่
- ทำให้สะโพกมีรูปร่างดีขึ้น : การฉีดไขมันทำให้สะโพกมีขนาดใหญ่ขึ้นและมีรูปร่างดีขึ้น ทำให้ดูมีส่วนโค้งส่วนเว้ามากขึ้น
- เพิ่มความมั่นใจในตนเอง: ผู้ที่ผ่านการฉีดไขมันจะรู้สึกมั่นใจในตนเองมากขึ้น
- กำจัดไขมันส่วนเกิน: การดูดไขมันร่วมกับการฉีดไขมันเสริมสะโพกจะช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินออกจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง สะโพก และแผ่นหลังส่วนล่าง
- มีแผลน้อย: การฉีดไขมันเสริมสะโพกจะดำเนินการร่วมกับการดูดไขมัน ซึ่งทำให้เกิดแผลน้อยที่สุดผ่านรอยกรีดขนาดเล็ก
- ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน: การฉีดไขมันเสริมสะโพกจะให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานหลายปีหากคนไข้รับประทานอาหารและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม แต่ความยืนยาวของผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในคนไข้แต่ละคน
การฉีดไขมันเสริมสะโพกมีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน คนไข้ต้องมีความคาดหวังที่เป็นจริงได้ด้วยการผ่าตัดศัลยกรรม และต้องปรึกษาศัลยแพทย์ตกแต่งที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการ
ผลข้างเคียงของการฉีดไขมันเสริมสะโพก
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการฉีดไขมันเสริมสะโพก ได้แก่
- ช้ำ บวม และปวด บริเวณที่กำจัดไขมันส่วนเกินและฉีดไขมันเข้าไป
- อาการชาที่ก้น เป็นอาการที่มักเกิดขึ้นได้ แต่จะเป็นเพียงชั่วคราว
- การติดเชื้อ เลือดออก และลิ่มเลือด ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบไม่บ่อย แต่รุนแรง ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
- ไขมันที่ฉีดบางส่วนหรือทั้งหมดหายไป ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หากไม่ได้ฉีดไขมันอย่างเหมาะสมหรือร่างกายดูดซึมไขมันที่ฉีด
- สะโพกไม่สมมาตร ภาวะที่สะโพกมีขนาดไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการการดูดซึมและสลายของร่างกาย
- ภาวะไขมันอุดตัน ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบไม่บ่อย แต่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ได้ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อไขมันเข้าสู่กระแสเลือดและไปอุดตันหลอดเลือดในปอด ต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
ผลข้างเคียงอาจแตกต่างกันไปในคนไข้แต่ละคน ขึ้นอยู่กับทักษะและประสบการณ์ของศัลยแพทย์ คนไข้ควรปรึกษาศัลยแพทย์ตกแต่งเพื่อรับทราบความเสี่ยง และประโยชน์ของการฉีดไขมันเสริมสะโพก พร้อมแจ้งความคาดหวังให้ศัลยแพทย์ทราบ
ทำไมการฉีดไขมันเสริมสะโพกอันตรายกว่าผ่าตัด?
การฉีดไขมันเสริมสะโพก (Brazilian Butt Lift) เป็นการศัลยกรรมที่อันตรายเพราะฉีดไขมันเข้าสะโพก ไขมันที่ฉีดเข้าชั้นผิวหนังอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนที่รุนแรงและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต การฉีดไขมันเสริมสะโพกต้องใช้ทักษะและความชำนาญอย่างมากเพื่อให้มั่นใจว่าไขมันถูกฉีดเข้าไปตรงบริเวณที่ถูกต้อง และไม่รั่วไหลหรือติดเชื้อ หากฉีดผิดที่หรือไขมันไหลออก ไขมันอาจเกิดการติดเชื้อและคนไข้อาจหมดสติจากการติดเชื้อหรือเกิดโรคแทรกซ้อนที่คุกคามถึงชีวิตได้ นอกจากนี้ไขมันที่ฉีดเข้าไปอาจเป็นก้อน ไม่สมดุล หรือผิดปกติได้
ทำไมต้องผ่าตัดเสริมสะโพก ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล
โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล เป็นสถานพยาบาลชั้นนำที่ให้บริการด้านศัลยกรรมตกแต่งและศัลยกรรมเสริมความงามให้กับคนไข้ทั่วโลก ข้อดีของการผ่าตัดเสริมสะโพกที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล ได้แก่
- ทีมศัลยแพทย์ของโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล มีประสบการณ์สูงในการผ่าตัดเสริมสะโพก ทำให้ผลลัพธ์จากการผ่าตัดดูเป็นธรรมชาติ ตรงกับความต้องการและเป้าหมายของคนไข้
- โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลเป็นสถานพยาบาลที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับโลก การผ่าตัดจึงปลอดภัยและการดูแลหลังผ่าตัดมีคุณภาพสูง
- โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย และบุคลากรทางการแพทย์ที่ผ่านการฝึกอบรมขั้นสูง
- โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของคนไข้ทั้งระหว่างและหลังการผ่าตัด เราให้การดูแลหลังผ่าตัดครบวงจรเพื่อให้มั่นใจว่าคนไข้จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและได้รับความสะดวกสบาย