หน้าผากเป็นส่วนสำคัญมากของใบหน้าส่วนบน การที่มีหน้าผากโหนกนูน โค้งมนได้สัดส่วนพอเหมาะ จะทำให้ใบหน้าสวยงาม อ่อนหวานมีเสน่ห์กับผู้พบเห็น สมัยก่อนนิยมฉีดซิลิโคน หรือสารเติมเต็มอื่น ๆ ซึ่งระยะยาว มีผลแทรกซ้อนตามมา เนื่องจากซิลิโคนที่ฉีดเข้าไปจะไหลลงมาที่ตา แก้ม ขมับ ทำให้ใบหน้าผิดรูปร่าง แก้ไขได้ยาก เพราะซิลิโคนถูกซึมไปตามเนื้อเยื่อ ทำให้การไหลเวียนของเลือด และน้ำเหลืองไม่ดี สำหรับผู้ที่หน้าผากแคบหรือแบนเกินไป การทำศัลยกรรมเสริมหน้าผากจะช่วยให้หน้าผากดูอวบอิ่ม โค้งมน กลมกลืน ได้สัดส่วน สวยงาม และไม่มีอันตรายในระยะยาว
การเสริมหน้าผาก (Forehead Augmentation)
ภาพที่ 1. ก่อนเสริมหน้าผาก |
ภาพที่ 2. หลังเสริมหน้าผาก |
การเสริมหน้าผาก (Forehead Augmentation) เป็นการผ่าตัดปรับหน้าผากที่แคบหรือแบนเกินไป จนทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วน หรือสำหรับผู้ที่มีหน้าผากไม่เท่ากัน ผู้ที่มีคิ้วต่ำอาจทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ด้วยการฉีดไขมัน หรือการผ่าตัดนำแผ่นซิลิโคนที่มีรูปร่างโค้งงอใส่เข้าไปยังพื้นที่หน้าผากเดิม ตามความต้องการของคนไข้แต่ละคน ไปจนถึงความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์ด้วย สำหรับการทำศัลยกรรมหน้าผากที่ได้รับความนิยม คือ
การเสริมหน้าผาก
การกรอหน้าผาก การยุบหน้าผาก
การดึงหน้าผาก
วัสดุที่นิยมใช้เสริมหน้าผาก
- ฉีดไขมัน Fat Transfer
- Bone Cement
- E-PTFE
- แผ่นซิลิโคน Silicone Implant
- Customized PMMA เป็นวัสดุแบบเดียวกับ Bone cement แต่หล่อสำเร็จรูป เพื่อให้เหมาะกับแต่ละบุคคลเท่านั้น
เทคนิคการศัลยกรรมเสริมหน้าผาก
วิธีการและเทคนิคที่ใช้ในการเสริมหน้าผาก ที่มีความปลอดภัย ทนทาน และสามารถปรับแต่งรูปร่างได้ตามต้องการ มีดังนี้
1. การฉีดไขมัน
ศัลยแพทย์จะดูดไขมันจากส่วนต่างๆของร่างกาย มาปั่นแยกเซลล์ไขมันเพื่อฉีดเข้าไปที่หน้าผากแล้วปรับแต่งรูปทรงหน้าผากให้อูมอิ่ม และโค้งมน การฉีดไขมัน ทำได้ภายใต้การฉีดยาชา ข้อเสียของการฉีดไขมัน คือ ไขมันที่ฉีดไป จะสลายไปบางส่วนภายในเวลา 1-2 ปี ทำให้ต้องฉีดเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ข้อดีของการฉีดไขมันคือ ไม่มีแผล หรือแผลเป็นน้อยมาก
2. Bone Cement
เป็นวัสดุตัวหนึ่งที่ใช้มานาน เป็นสารชื่อ โพลี่เมทิลเมทตาไซเลท หรือ PMMA เป็นสารที่ไม่ระคายเคือง หรือ เป็นอันตรายกับร่างกาย ศัลยแพทย์ชอบใช้ เพราะสามารถปรับสร้างรูปทรงได้ง่าย เวลาที่ใช้ผ่าตัดประมาณ 2-3 ชั่วโมง
3. แผ่นซิลิโคน
ที่เป็นแผ่นบางๆ แต่ไม่เป็นที่นิยมเพราะ ไม่ค่อยยืดหยุ่น ปรับรูปทรงให้โค้งไปกับแนวหน้าผากได้ยากไม่เหมือนกับ Bone Cement หรือ ePTFE ศัลยแพทย์จะเปิดแผล เป็นแนวจาก เหนือหู ข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง หลังไรผมจากนั้นใส่แผ่นซิลิโคนให้แนบไปกับหน้าผาก เสร็จแล้วเย็บปิดแผล การผ่าตัดเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน แบบนี้ อาจจะเกิดแผลเป็นยาว อาจจะเกิดอาการชาหลังผ่าตัด นาน 3-6 เดือน
4. e-PTFE (Gore-Tex)
เป็นวัสดุ ชนิดหนึ่ง ที่ใช้กันมานาน ใช้เป็นเส้นหลอดเลือดเทียม ต่อมาเอามาดัดแปลงเป็นวัสดุที่ใช้เสริมแทนซิลิโคนที่ใช้มานาน e-PTFE (Gore-Tex) มีลักษณะเป็นรูพรุน สามารถให้เนื้อเยื่องอกแทรกไปตามรูพรุนทำให้ วัสดุยึดเกาะติดตำแหน่งได้ดี เป็นวัสดุที่นิ่ม เหนียว มีความยืดหยุ่นดี สามารถปรับรูปทรง โค้งไปตามรูปหน้าผากได้ดี ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลจึงนิยมใช้ แผ่น ePTFE นี้
5. Customized PMMA
เป็นวัสดุที่ถูกทำขึ้นมาให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละคน เป็นวัสดุเดียวกับ Bone Cement ที่ใช้มานานไม่ระคายเคือง ไม่แพ้ เมื่อทำขนาดและรูปทรงตามต้องการ ไม่เสียเวลาในการปรับแต่งรูปทรง สามารถแก้ไขความผิดปกติของใบหน้าที่กระดูกบางส่วนหายไป ผลจาก เอกซเรย์3 D ทำให้หล่อแผ่นวัสดุในขนาดและรูปทรงที่ต้องการอย่างพอดี การผ่าตัดด้วยวิธีนี้ มีข้อดีคือ ใช้เวลาในการผ่าตัดน้อยลง โดยมีขนาดและรูปทรงพอดีกับที่ต้องการ ลดความเสี่ยงจากการไม่สมดุลของใบหน้าด้วย
รีวิวการผ่าตัดเสริมหน้าผาก ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล
ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมหน้าผาก
- โดยทั่วไปต้องดมยาสลบ
- เปิดแผลหลังไรผม 1-2 เซนติเมตร โดยไม่ต้องโกนผม แล้วเปิดเลาะหนังศีรษะจนถึงโหนกคิ้ว ใส่วัสดุที่เสริมลงไปให้ครอบคลุมหน้าผาก แล้วจึงเย็บปิดแผล
- การผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นใช้ผ้ายืดรัดหน้าผาก
การดูแลหลังผ่าตัดเสริมหน้าผาก
- นอนหมอนสูง อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์หลังผ่าตัด จะช่วยให้ยุบบวมได้เร็วขึ้น
- หากปวดหลังผ่าตัด สามารถรับประทานยาแก้ปวด
- งดการออกกำลังกาย 3-4 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- จะเห็นผลการผ่าตัดอย่างชัดเจน 1 เดือนหลังผ่าตัด การยุบบวมต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือน
- ทำแผลให้สะอาดทุกวัน ทาเบตาดีน หลังผ่าตัดแล้ว 2 วัน สระผมเบา ๆ ด้วยแชมพูเด็กอ่อน ไม่เกาหนังศีรษะ เป่าผมให้แห้ง
- 10 วันตัดไหม สามารถกลับไปทำงานตามปกติหลังผ่าตัดแล้ว 1 สัปดาห์
- มาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนจากการเสริมหน้าผาก
การเสริมหน้าผากเพื่อให้หน้าผากโค้งโหนกนูน สวยงาม มีหลายวิธีดังที่กล่าวแล้วข้างต้น ศัลยแพทย์ชำนาญการด้านการผ่าตัดเสริมหน้าผากจะช่วยลดความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน ได้แก่ การติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด เลือดออก แผลบวมแดง การเคลื่อนผิดตำแหน่งของวัสดุที่เสริม แผลเป็น และผลข้างเคียงจากการดมยาสลบ
รูปก่อนและหลังผ่าตัดเสริมหน้าผาก ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล
สาระน่ารู้: การผ่าตัดเสริมหน้าผาก
หน้าผากโค้งมน โหนกนูน ทำให้ใบหน้าสวยได้อย่างไร
หน้าผากโค้งมน โหนกนูน ได้สัดส่วนที่สมดุลของรูปหน้า และองค์ประกอบของให้ใบหน้าดูสวยงาม อ่อนหวาน ละมุน
ผ่าตัดเสริมหน้าผาก ด้วย "หน้าผากสำเร็จรูป"
"หน้าผากสำเร็จรูป" เป็นวัสดุทางการแพทย์ ที่ออกแบบและผลิตหน้าผาก ให้พอดีสำหรับหน้าผากของคนไข้เฉพาะราย
"ศัลยกรรมเสริมหน้าผาก" ให้เหมาะกับเพศที่เลือก
ลักษณะของหน้าผากบ่งบอกได้ว่าเป็นเพศใด "การศัลยกรรมเสริมหน้าผาก" ช่วยออกแบบหน้าผากให้เหมาะสมกับเพศที่ต้องการได้
วีดิทัศน์ การผ่าตัดเสริมหน้าผาก
ทำไมต้องผ่าตัดเสริมหน้าผาก ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล
โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลเป็นสถานพยาบาลชั้นนำที่ให้บริการด้านการเสริมหน้าผากกับคนไข้ทั่วโลก ข้อดีของการเสริมหน้าผากที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล ได้แก่
- ทีมศัลยแพทย์ของโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลมีประสบการณ์สูงในการผ่าตัดเสริมหน้าผาก ทำให้หน้าผากที่ได้จากการผ่าตัดศัลยกรรมดูเป็นธรรมชาติ ตรงกับความต้องการและเป้าหมายของคนไข้
- โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลเป็นสถานพยาบาลที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับโลก การผ่าตัดจึงปลอดภัยและการดูแลหลังผ่าตัดมีคุณภาพสูง
- โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย และบุคลากรทางการแพทย์ที่ผ่านการฝึกอบรมขั้นสูง
- โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของคนไข้ทั้งระหว่างและหลังการผ่าตัด เราให้การดูแลหลังผ่าตัดครบวงจรเพื่อให้มั่นใจว่าคนไข้จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและได้รับความสะดวกสบาย