กรามและขากรรไกรล่างเป็นส่วนหนึ่งของการปรับเปลี่ยนใบหน้าที่สำคัญจุดหนึ่ง บางคนหน้าแหลมยาวแต่ไม่มีกราม หรือมีคางแต่ไม่มีกรามหรือขากรรไกรขนาดที่เหมาะสมมารองรับรูปหน้า ทำให้ใบหน้าดูเหมือนคนขาดความมั่นใจ ดูไม่สง่างาม การเสริมกรามเพื่อเพิ่มขนาดกรามและขากรรไกร ทำให้ดูมีขากรรไกรที่แข็งแรง มีเหลี่ยมมุมกราม ช่วยแก้ไขรูปหน้าให้ได้สัดส่วน ดูแข็งแรง มีความมั่นใจ และดูสมาร์ตขึ้น การปรับรูปแนวกราม สามารถทำได้ทั้งการผ่าตัดกราม เหลากราม หรือผ่าตัดเสริมกรามเข้าไป ขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของแต่ละคน
การผ่าตัดเสริมกราม (Jaws Augmentation)
การผ่าตัดเสริมกราม (Jaws Augmentation) เป็นการผ่าตัดเสริมซิลิโคน หรือ วัสดุทางการแพทย์เข้าไปตามแนวขากรรไกร เพื่อเพิ่มมิติและความคมชัดให้กับแนวกราม หรือผู้ที่มีขนาดของกรามทั้งสองข้างไม่เท่ากัน การผ่าตัดเสริมกรามจะช่วยปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน และมีความสมดุลใกล้เคียงกันทั้งสองข้าง นอกจากนี้การผ่าตัดเสริมกรามยังช่วยในการปรับรูปหน้าให้ดูเป็นผู้ชาย (Masculine Face) ได้อีกด้วย
วัสดุที่ใช้ผ่าตัดเสริมกราม
- ซิลิโคนสำเร็จรูป ออกแบบและผลิตจากวัสดุทางการแพทย์เป็นพิเศษ มีขนาดและรูปทรงพอดีกับคนไข้เฉพาะราย
- PMMA Customized implant เป็น กระดูกเทียมที่หล่อขึ้นมาสำหรับคนไข้คนใดคนหนึ่งเท่านั้น
ผู้ที่เหมาะสมกับการผ่าตัดเสริมกราม
- มีกรามเล็ก ไม่สมดุลกับใบหน้า หรือ มีกรามสองข้างไม่เท่ากัน
- สุขภาพแข็งแรง สามารถดมยาสลบ
- มีความคาดหวังผลการผ่าตัดอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ( realistic expectation )
ตำแหน่งของแผลจากการผ่าตัดเสริมกราม
ตำแหน่งแผลผ่าตัดเสริมกรามจะอยู่ภายในช่องปาก โดยศัลยแพทย์จะดำเนินการผ่าตัดดังนี้
- เปิดแผลผ่าตัดประมาณ 3-5 เซนติเมตร ซึ่งอยู่หลังฟันกรามซี่สุดท้าย
- ค่อย ๆ เปิดแผลผ่านกล้ามเนื้อที่คลุมกรามออก และเลาะเยื่อหุ้มกระดูกออก
- ศัลยแพทย์จะใส่ Implant ที่มีขนาดกว้างและยาวเหมาะสมกับแต่ละท่านลงไป ในตำแหน่งที่ครอบกระดูกมุมขากรรไกรล่างด้านใน ยาวมาตามแนวของขากรรไกร
- ยึด Implant กับกระดูกขากรรไกร
- ปรับกระดูกขากรรไกรล่างที่เหลือให้โค้งเรียบเนียนไปตามแนวคาง
- เย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย
การผ่าตัดเสริมกรามหรือขากรรไกรล่าง เป็นการผ่าตัดที่ต้องอาศัยความชำนาญ และประสบการณ์ของศัลยแพทย์ตกแต่ง จะทำให้ผลการผ่าตัดที่ออกมาได้รูปหน้าที่สวยงาม และสมดุลเท่ากันทั้งสองข้าง
การผ่าตัดเสริมกราม (Jaws Augmentation)
|
ภาพก่อนเสริมกราม |
ภาพหลังเสริมกราม |
รูปที่ 1: ก่อนและหลังการผ่าตัดเสริมกราม
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมกราม
การเตรียมตัวที่ดีจะทำให้ผลการผ่าตัดออกมาดี ไม่บอบช้ำมาก และฟื้นตัวเร็ว การผ่าตัดทุกชนิดต้องการ การดูแลเอาใจใส่สุขภาพร่างกาย และจิตใจ ก่อนและหลังการผ่าตัดรวมถึงการวางแผนระยะเวลาการฟักฟื้น การปรึกษาและการได้รับข้อมูลจากแพทย์เกี่ยวกับปัญหาแทรกซ้อน และความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ระหว่างและหลังผ่าตัดเสริมกราม ควรมีการเตรียมตัวดังนี้
- ตรวจสุขภาพทั่วไป ตรวจเลือดทั่วไป CBC , HIV, Hepatitis กรณีที่อายุเกิน 40 ปีเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าหัวใจแข็งแรงเพียงพอ ที่จะพร้อมรับการผ่าตัดและดมยาสลบ ต้องตรวจ EKG และStress test, หรือถ้าอายุน้อยกว่านี้ แต่ แพทย์เห็นว่าอาจจะมีความเสี่ยง รวมถึง X ray ปอดด้วย
- งดการสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 อาทิตย์ การสูบบุหรี่จัด จะมีผลต่อระยะเวลาพักฟื้น การการสมานแผลของคนไข้ผ่าตัด
- หยุดยา วิตามิน หรือสมุนไพร บางชนิดที่รับประทานประจำ ที่มีผลต่อการไหลของเลือด หรือทำให้เลือดหยุดยากกว่าปกติในระหว่างการผ่าตัด เช่น แอสไพริน วิตามิน อี สมุนไพร หรือนำยาที่รับประทานประจำไปให้ศัลยแพทย์ดูก่อนการผ่าตัดว่าต้องหยุดตัวไหนหรือไม่ จะได้วางแผนไว้ก่อน
ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมกราม
สำหรับขั้นตอนการผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความยากง่าย และความหนาของกราม มีขั้นตอนดังนี้
- ดมยาสลบ ต้องงดน้ำ อาหาร อย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด
- ตำแหน่งแผลอยู่ในปาก เพื่อซ่อนแผลผ่าตัด
- เปิดแผล 3-4 เซนติเมตร แล้วเลาะเนื้อเยื่อจนถึงกระดูกขากรรไกรล่าง แล้วใส่ implant ยึด implant กับกระดูกขากรรไกรด้วย สกรู หลังจากนั้นปรับกระดูกขากรรไกรล่างที่เหลือให้โค้งเรียบเนียนไปตามแนวคาง และปรับแนวกราม – คาง ให้เรียบเนียนเป็นแนวเดียวกันซึ่ง สำคัญมาก จะทำให้กรามโค้งสวยได้รูป ไปถึงแนวคาง
- เย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย
การพักฟื้นและการดูแลแผลหลังผ่าตัดเสริมกราม
การผ่าตัดเสริมกรามเป็นการผ่าตัดใหญ่ของใบหน้า หลังการผ่าตัดแพทย์จะให้ยาแก้ปวด ลดบวม และยาแก้อักเสบ โดยอาการบวมจะเกิดมากหรือน้อยขึ้นกับแต่ละบุคคล หลังผ่าตัดอาจจะใช้เจลเย็นประคบเพื่อลดอาการบวมช้ำ และอาการปวดให้น้อยลง อาการบวมจะมากที่สุด 2-3 วันแรกหลังผ่าตัด หลังจากนั้นจะค่อย ๆลดลงจนเข้าที่ประมาณ 1 เดือน อาจมีอาการชาเกิดขึ้นได้บริเวณใกล้ ๆ แผลผ่าตัด โดยอาการชาดังกล่าวจะหายไปได้เองแต่ต้องใช้เวลา
อย่างไรก็ตามการดูแลแผลและปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ จะช่วยป้องกันการติดเชื้อ ลดระยะเวลาในการพักฟื้น ดังนี้
- เวลานอนให้ นอนศรีษะสูง
- หลังจากการผ่าตัด ให้รับประทานอาหารเหลวประมาณ1 เดือน เพื่อลดความปวด และไม่ทำให้แผลฉีกขาด
- ใช้ผ้ารัดหน้าตลอดเวลา 3 วันแรกหลังผ่าตัด หลังจากนั้นให้รัดหน้าตอนนอน จะช่วยลดบวม ได้เร็วขึ้น ระมัดระวังเวลาล้างหน้าหรือสระผม ให้ทำแบบเบาๆ
- ใช้น้ำยาบ้วนปากบ่อย ๆ ให้ภายในปากไม่แห้ง คราบเลือดหลุดเร็ว ป้องกันการติดเชื้อด้วย
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องอ้าปากกว้าง ๆ บ่อย ๆ ประมาณ 1 เดือน
- งดดื่ม แอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ 2 อาทิตย์ หลังผ่าตัด
- ไปพบแพทย์ตามนัด มีคำถามสงสัยปรึกษาแพทย์ทันที
สามารถกลับไปทำงานได้ 7-10 วันหลังผ่าตัด ออกกำลังกายได้หลังผ่าตัด 1 เดือน
ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดเสริมกรามที่อาจเกิดขึ้น
การผ่าตัดเสริมกรามเป็นการผ่าตัดที่มีความเสี่ยงสูง ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนของการผ่าตัดเสริมกราม ได้แก่
- ความเสี่ยงจากการดมยา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน
- เลือดคั่ง
- Deep vein thrombosis
- Pulmonary embolism
- ช้ำ บวม
- ติดเชื้อที่แผล ควรบ้วนปาก และล้างปาก ด้วยน้ำยาบ้วนปากบ่อยๆ
- ปวดแผล
- อาการชา อาจจะเกิดได้บริเวณแผลผ่าตัด เพราะเกิดการฉีกขาดขณะผ่าตัด แต่จะหายได้เองประมาณ 6-12 เดือน
- แผลผ่าตัดสมานตัวช้า
- กราม สองข้างอาจจะไม่เท่ากันได้ได้ เพราะกระดูกขากรรไกรเดิมอาจจะไม่เท่ากันมาก่อน แต่แก้ไขได้ด้วยการผ่าตัดครั้งที่สอง
- อาจจะเกิดการพลิกตัวของ วัสดุที่เสริม
- ไม่พอใจกับผลผ่าตัด อาจจะผ่าตัดใหม่
การพักฟื้นหลังผ่าตัดเสริมกราม
การพักฟื้นหลังการผ่าตัดเป็นสิ่งจำเป็น มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยปกติหลังผ่าตัดอาจมีการเขียวช้ำบริเวณคอและใต้คางประมาณ 1 อาทิตย์ ซึ่งจะหายไปเอง อาจมีอาการชา หรือกระตุกที่ริมฝีปากเป็นเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ อาการดังกล่าวจะหายไปเองเช่นกัน หลังผ่าตัดแล้วประมาณ 7-10 วันคนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ควรงดออกกำลังกายหักโหมเป็นเวลา 1 เดือน และเนื่องจากเป็นไหมละลายจึงไม่ต้องไปตัดไหมอีกด้วย
สาระน่ารู้ การผ่าตัดเสริมกราม
"กรามสำเร็จรูป" ที่ออกแบบและผลิตสำหรับคนไข้เฉพาะราย
Customized Jaw Implant หมายถึง กรามสำเร็จรูป ที่ออกแบบ และผลิตจากวัสดุทางการแพทย์เป็นพิเศษมีขนาดและรูปทรงพอดี กับคนไข้เฉพาะรายที่ต้องผ่าตัดเสริมกราม
ผ่าตัดเสริมกราม สร้างแนวกรามคาง ที่แข็งแรง
หลายๆคนอยากมีแนวกรามคางที่แข็งแรง กว่าเดิม เพื่อเติมเต็มใบหน้าส่วนล่าง ให้มีสัดส่วนของใบหน้าที่สมดุลมากขึ้น บางท่านอาจจะต้องการ กรามที่แข็งแรงแบบเพศชาย
"กรามสวย" ทำให้มีเสน่ห์ได้อย่างไร
แนวกราม คางที่สวยงามได้สัดส่วนกับใบหน้า ทำให้ใบหน้าของหญิงและชายมีเสน่ห์ น่าชวนมอง เพราะกรามที่แข็งแรงและสมส่วนกับใบหน้าทำให้ดูอบอุ่นและแข็งแรง
รูปก่อนและหลังการผ่าตัดเสริมกราม
รูปก่อนและหลังการผ่าตัดเสริมกราม
รูปก่อนและหลังการผ่าตัดเสริมกราม
รูปก่อนและหลังการผ่าตัดเสริมกราม
รูปก่อนและหลังการผ่าตัดเสริมกราม
รูปก่อนและหลังการผ่าตัดเสริมกราม
รีวิวการผ่าตัดเสริมกราม
รีวิวการผ่าตัดเสริมกราม
รีวิวการผ่าตัดเสริมกราม
รีวิวการผ่าตัดเสริมกราม
รีวิวการผ่าตัดเสริมกราม
รีวิวการผ่าตัดเสริมกราม
รีวิวการผ่าตัดเสริมกราม
รีวิวการผ่าตัดเสริมกราม
รีวิวการผ่าตัดเสริมกราม
รีวิวการผ่าตัดเสริมกราม
รีวิวการผ่าตัดเสริมกราม
รีวิวการผ่าตัดเสริมกราม
รีวิวการผ่าตัดเสริมกราม
ทำไมต้องผ่าตัดเสริมกราม ปรับรูปแนวกรามให้สวยงาม?
กรามเป็นองค์ประกอบสำคัญของใบหน้า รูปร่างลักษณะโครงสร้างกระดูก และกล้ามเนื้อส่วนของกราม มีบทบาทสำคัญในการบ่งบอกอัตลักษณ์ทางเพศของบุคคล ส่วนใหญ่ผู้ชายจะมีกรามที่ใหญ่ กระดูกหนา ดูแข็งแรง และมีกล้ามเนื้อที่แนวกรามเป็นสันแข็งแรงชัดเจน ส่วนผู้หญิงจะมีกระดูกกรามที่บางกว่า กล้ามเนื้อกรามจะแข็งแรงน้อยกว่า กล้ามเนื้อบางกว่า
แนวคิดนี้มาจากบรรทัดฐานทางสังคม (Societal Norms) และการเหมารวมทางเพศ (Gender Stereotypes) ที่ฝังแน่นอยู่ในวัฒนธรรมมาช้านาน แต่ไม่ใช่เพศชายและเพศหญิงทุกคนจะมีลักษณะเป็นแบบที่กล่าวมา
- กรามของผู้ชาย เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือสี่เหลี่ยมจตุรัสที่มีมุมแหลม แสดงความแข็งแกร่ง พลัง และความเป็นชาย ผู้ชายที่มีกรามแข็งแรงมีความมั่นใจ ความมุ่งมั่น มีความอบอุ่น และการกล้าแสดงออกที่จะปกป้องดูแลผู้ที่อ่อนแอกว่า เป็นลักษณะของความเป็นพ่อ
- กรามของผู้หญิง กระดูกกรามของผู้หญิงดูบางกว่า โครงสร้างของกล้ามเนื้อบริเวณแนวกรามจะดูเรียบเนียน ไม่เป็นสัน มีมุมกรามที่ดูอ่อนละมุน สวยงาม มีแนวกรามจากมุมกรามถึงปลายคางได้องศาที่สวยงาม แสดงถึงความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเผชิญกับการตัดสินใจ แต่แฝงด้วยความละเอียดอ่อนของความเป็นหญิง ความงามของผู้หญิงที่มีกรามจะดูแข็งแรงแต่นุ่มนวล ดูมีเสน่ห์แบบผู้หญิง บ่งบอกถึงความแข็งแรงของความเป็นแม่ ขณะเดียวกัน ก็ผสมด้วยความนุ่มนวล ความละเอียดอ่อน
ในกรณีของบุคคลที่ไม่ใช่เพศหญิงหรือเพศชายมาแต่กำเนิด แต่มีความรู้สึกเป็นหญิงข้ามเพศหรือชายข้ามเพศ จึงนิยมทำศัลยกรรมกราม เสริมกราม เพื่อปรับรูปหน้าให้เหมาะสมกับเพศสภาพที่ตนเองต้องการ ดังนั้น การศัลยกรรมเสริมกรามมักนิยมในชายข้ามเพศ เพื่อสร้างรูปหน้าให้ดูแข็งแกร่งมีพลัง เพื่อปกป้องบุคคลที่อ่อนแอกว่า และทำให้รู้สึกมั่นใจที่จะใช้ชีวิตในสังคมอย่างปลอดภัย หลีกเลี่ยงการถูกข่มขู่และคุกคามทางเพศ ส่วนหญิงข้ามเพศมีพื้นฐานเดิมที่จะมีกรามใหญ่และแข็งแรง ต้องการปรับรูปหน้าให้มีกรามที่เรียวเล็ก ดูอ่อนหวาน เป็นหญิง
โดยสรุป รูปร่างของกรามมีผลต่อการจำแนกเพศ แต่ก็มิใช่ตัวบ่งชี้เพศของบุคคลที่ชัดเจน บรรทัดฐานทางสังคมในเรื่องเพศ มีบทบาทสำคัญในแนวคิดนี้ แต่ก็มิใช่ทุกคนที่จะเป็นไปตามแนวคิดดั้งเดิมดังกล่าว
"กรามเทียม" ที่ออกแบบและผลิตสำหรับคนไข้เฉพาะราย
Customized Jaw Implant หมายถึง กรามเทียม ที่ออกแบบ และผลิตจากวัสดุทางการแพทย์เป็นพิเศษมีขนาดและรูปทรงพอดี กับคนไข้เฉพาะรายที่ต้องผ่าตัดเสริมกราม ด้วยนวัตกรรม ที่ทันสมัยของระบบ การพิมพ์ 3 มิติ สามารถสร้างโมเดลออกมา จาก โครงสร้างกระดูกบนใบหน้าจาก ระบบ CT SCAN แล้วเอามาขึ้นเป็นโครงสร้างของกระดูกหน้าของคนไข้ ศัลยแพทย์ และ คนไข้ สามารถร่วมกันกำหนด ขนาด และรูปทรงของใบหน้าที่ต้องการได้ แล้วสร้างโมเดลของกรามเทียม จาก การพิม 3 มิติ จากนั้นใช้วัสดุทางการแพทย์ เช่น ซิลิโคน PMMA และ ไทตาเนี่ยม มาหล่อตามโมเดลที่ออกแบบไว้ หลังจากนั้น เอาไปทำให้ปลอดเชื้อ จะใช้เวลา ประมาณ 5 วันทำการ หลังจากนั้น คนไข้ สามารถมารับการผ่าตัดใส่กรามเทียมได้ การผ่าตัด เสริมกรามนี้ นี้ช่วยให้คนไข้มีกรามที่ชัดเจน มีใบหน้าที่ดูสวยงามได้สัดส่วน สามารถช่วยแก้ไขใบหน้าของคนที่กรามเล็ก หรือคนที่มีใบหน้า และ กรามไม่สมดุล ให้สวยงามได้สัดส่วนที่ดีขึ้น
ขั้นตอนการผ่าตัด เสริมกราม
- การปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ศัลยแพทย์จะประเมินโครงสร้างใบหน้าของคนไข้ และส่งทำ CT SCAN
- นำผลจาก CT SCAN มาสร้างโมเดลใบหน้า
- ศัลยแพทย์ และคนไข้ จะกำหนดขนาด และรูปร่างของ "กรามเทียม" จากโมเดลที่ออกแบบไว้ ส่งให้บริษัท
- บริษัทนำไปขึ้นโมเดลของกราม แล้วนำวัสดุทางการแพทย์ที่เลือกใช้ เช่น ซิลิโคน PMMA หรือไตตาเนียม นำไปหล่อเป็นกรามเทียม ตกแต่งรูปทรงให้สวยงามตามโมเดลที่ขึ้นรูปไว้
- นำไปทำให้ปลอดเชื้อ แล้วส่งมอบให้กับศัลยแพทย์
- ผ่าตัดใส่กรามเทียมภายใต้การดมยาสลบ แผลในปาก
กรามเทียมสำหรับคนไข้เฉพาะรายทำจากซิลิโคน (silicone) หรือโพลีเอทิลีน (polyethylene) และออกแบบให้มีรูปทรงเหมือนกรามตามธรรมชาติ ศัลยแพทย์จะใส่วัสดุเทียมระหว่างการผ่าตัดผ่านแผลเล็ก ๆ บริเวณกรามล่าง เพื่อเพิ่มรูปร่างและความชัดเจนของกราม
วิสัญญีแพทย์จะวางยาสลบ ศัลยแพทย์จะใช้เวลาผ่าตัดนานประมาณ 2-3 ชั่วโมง หลังผ่าตัด คนไข้จะต้องพักฟื้นนานหลายสัปดาห์ คนไข้จะต้องควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัด และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก เพื่อให้มั่นใจว่าแผลจะหายสนิท
เนื่องจากแผลอยู่ในปาก ต้องใช้น้ำยาบ้วนปากเป็นประจำ วันละหลาย ๆ ครั้ง จนกว่าแผลจะสมานกันดี ประมาณ 1 สัปดาห์ ไม่ต้องตัดไหม
กรามเทียม สำหรับคนไข้เฉพาะรายทำให้กรามชัดเจนและมีใบหน้าสมดุลขึ้น ช่วยแก้ไขใบหน้าที่ไม่ได้สัดส่วน ให้ออกมาสวยงามสร้างความมั่นใจกลับคืนมา การผ่าตัดกรามนี้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่รักษารูปทรงของใบหน้าตลอดไป
การผ่าตัดเสริมกราม ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะบุคคลนั้น เป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมกราม เพื่อให้มีโครงสร้างใบหน้าที่ชัดเจนสวยงาม กลมกลืน ได้สัดส่วนมากขึ้น
เราเข้าใจดีว่าการตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดเป็นเรื่องซับซ้อนและมีผลกระทบทางอารมณ์ เราให้บริการอย่างใกล้ชิดกับคนไข้เพื่อให้คนไข้ได้รับในสิ่งที่ต้องการและคาดหวัง เราให้การดูแลและความเอาใจใส่เพื่อให้คนไข้รู้สึกสบายใจและมั่นใจในคุณภาพของการรักษา
