การทำศัลยกรรมใบหน้า / ปรับรูปหน้า ให้ดูเป็นชาย

ใบหน้าของเพศชายมีลักษณะอย่างไร

ใบหน้าของเพศชายจะมีขากรรไกร/ กรามที่แข็งแรง สันคิ้วโดดเด่น และมีจมูกใหญ่ โหนกแก้ม แบนกว้าง หน้าผากสูง เป็นสี่เหลี่ยม ลักษณะเหล่านี้สัมพันธ์กับการมีฮอร์โมนเพศชาย (testosterone) มาก ส่งผลให้มวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น ขนตามร่างกายดก และเสียงพูดทุ้มต่ำ ใบหน้าของเพศชายจะมีเหลี่ยมมุมมากกว่า ตา หู และปากมีระยะห่างมากกว่า

ในบางท่านมีความจำเป็นที่จะต้องทำศัลยกรรมใบหน้าให้ดูเหมือนเพศชายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากเป็นชายข้ามเพศ ต้องการปกปิดหรือสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง และป้องกันการถูกข่มขู่คุกคามทางเพศ จึงต้องการการเปลี่ยนแปลงใบหน้าให้เป็นเพศชาย

จะทำศัลยกรรมใบหน้า ให้เป็นเพศชายได้อย่างไร

การศัลยกรรมใบหน้า ที่ทำให้มีใบหน้าเหมือนเพศชาย ได้แก่

การผ่าตัดเสริมกราม คาง : หัตถการนี้ช่วยสร้างแนวกรามที่แข็งแรง ทำให้คางเใหญ่เป็นเหลี่ยมชัดเจนยิ่งขึ้น
การผ่าตัดเสริมโหนกคิ้ว: หัตถการนี้ช่วยสร้างสรรค์คิ้วที่โดดเด่น และหน้าผากที่ดูเป็นเพศชายมากขึ้น
การผ่าตัดเสริมจมูก: หัตถการนี้ช่วยสร้างจมูกที่ใหญ่ มีสันใหญ่ หนา แข็งแรง
การเสริมคาง: หัตถการนี้จัดตำแหน่งคางใหม่ ให้ใหญ่ขึ้น เพื่อสร้างแนวกรามที่แข็งแรงขึ้น
Facial implant: Facial implant เช่น การใช้อุปกรณ์เสริมกับคางและแก้ม เพื่อทำให้ใบหน้าดูเป็นชายขึ้น
การเสริมกระเดือก โดยใช้กระดูกอ่อนมาทำให้มีกล่องเสียงที่ใหญ่ขึ้น

หัตถการเหล่านี้อาจไม่ให้ผลลัพธ์ที่ต้องการ และยังมีความเสี่ยง รวมทั้งผลข้างเคียงด้วย ดังนั้น คนไข้ควรปรึกษาศัลยแพทย์เพื่อรับทราบถึงคุณประโยชน์ ความเสี่ยง และระยะเวลาในการพักฟื้นสำหรับหัตถการเหล่านี้

ทำไมต้องทำ ศัลยกรรมหน้าใบหน้าดูเป็นชาย

การผ่าตัดปรับรูปหน้าเพื่อให้มีใบหน้าดูเป็นชายเหมาะสำหรับชายข้ามเพศที่ต้องการปรับรูปลักษณ์ภายนอกให้สัมพันธ์กับอัตลักษณ์ทางเพศของตน

เป้าหมายของขั้นตอนเหล่านี้คือการสร้างใบหน้าที่ดูเป็นชายมากขึ้นโดยการเปลี่ยนรูปร่างและสัดส่วนของกราม คาง จมูก และหน้าผาก

การผ่าตัดเปลี่ยนรูปหน้าทำให้ใบหน้าดูเป็นชายมากขึ้น ช่วยให้ชายข้ามเพศรู้สึกมั่นใจและสบายใจในร่างกายของตน สามารถแสดงความเป็นตัวตนและเป็นตัวของตัวเอง ชายข้ามเพศอาจเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนรูปหน้าเพื่อแก้ไขความไม่สมดุลของใบหน้า หรือเพื่อทำให้ใบหน้าดูเป็นธรรมชาติ

การเข้ารับการผ่าตัดปรับรูปหน้าเป็นการตัดสินใจส่วนบุคคล คนไข้ควรปรึกษาศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญเพื่อให้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ และผลการผ่าตัดสัมพันธ์กับความเป็นอยู่ที่ดีและความสุขในชีวิต

การผ่าตัดปรับรูปหน้าใช้หัตถการใดบ้างเพื่อทำให้ใบหน้าดูเป็นชาย

การผ่าตัดปรับรูปหน้าใช้หัตถการหลายอย่างเพื่อทำให้ใบหน้าดูเป็นชาย หัตถการที่นิยมใช้ ได้แก่

การผ่าตัดกราม: หัตถการนี้ช่วยปรับรูปทรงของกรามเพื่อสร้างแนวกรามที่ชัดเจนและให้ดูเป็นชายมากขึ้น ด้วยการกรอกรามหรือใช้เทคนิคที่เรียกว่า mandibular angle reduction ซึ่งตัดส่วนหนึ่งของกรามออก
การยกคิ้ว: การดึงหน้าผากหรือการยกคิ้วทำให้สันคิ้วโดดเด่นยิ่งขึ้น และหน้าผากดูเป็นชายมากขึ้น หัตถการนี้ใช้เทคนิคทั้งแบบเปิดและแบบส่องกล้อง และอาจใช้อุปกรณ์เสริมหน้าผากเพื่อเพิ่มพื้นที่
การผ่าตัดเสริมจมูก: การผ่าตัดเสริมจมูกทำให้จมูกใหญ่ขึ้นและดูเป็นชายมากขึ้น หัตถการนี้ปรับรูปร่างของกระดูกจมูก กระดูกอ่อน และผิวหนัง เพื่อทำให้สันจมูกและปลายจมูกโดดเด่นขึ้น
การเสริมคาง: การเสริมคางช่วยวางตำแหน่งของคางเพื่อให้แนวกรามแข็งแรงขึ้น ด้วยการกรอกระดูกคางหรือใช้อุปกรณ์เสริมคางเพื่อทำให้กรามใหญ่ขึ้น
Facial implant: Facial implant ทำให้ใบหน้าดูเป็นชายได้ เช่น การเสริมคางและการเสริมโหนกแก้ม

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดปรับรูปหน้า

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดปรับรูปหน้ามีขั้นตอนดังนี้

ปรึกษาศัลยแพทย์: ก่อนผ่าตัดปรับรูปหน้า คนไข้ควรปรึกษาศัลยแพทย์ ศัลยแพทย์จะตรวจพยาธิสภาพของใบหน้าคนไข้ ประเมินความต้องการของคนไข้ในด้านสุนทรียภาพ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการผ่าตัด รวมถึงความเสี่ยงและประโยชน์ที่จะได้รับ
รับการตรวจวินิจฉัย: คนไข้จะได้รับการตรวจวินิจฉัยเพื่อให้มั่นใจว่ามีสุขภาพดี ไม่มีโรคที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน
หยุดสูบบุหรี่/ยาบางชนิด: คนไข้จะต้องหยุดสูบบุหรี่หรือยาบางชนิดก่อนผ่าตัด เพราะบุหรี่และยาบางชนิดทำให้แผลหายช้า และอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน
วางแผนพักฟื้น: คนไข้ควรวางแผนพักฟื้นหลังผ่าตัด เช่น การเตรียมหยุดงาน คนไข้ควรจัดเตรียมคนที่ให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับกิจกรรมประจำวันและการเดินทาง
ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์: ก่อนผ่าตัด คนไข้จะได้รับคำแนะนำจากศัลยแพทย์ คนไข้ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ผลการผ่าตัดที่ดีที่สุด รวมถึงคำแนะนำในการเตรียมตัวเข้ารับการผ่าตัด สิ่งที่ต้องการระหว่างการพักฟื้น และข้อมูลอื่นที่เกี่ยวกับการผ่าตัด

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดปรับรูปหน้าจะแตกต่างกันไปตามหัตถการ คนไข้ควรปรึกษาศัลยแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

การดูแลหลังการผ่าตัดปรับรูปหน้า

การดูแลหลังการผ่าตัดปรับรูปหน้าเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้คนไข้ฟื้นตัวเร็วและผลได้ผลการผ่าตัดที่ดีที่สุด

การจัดการความเจ็บปวด: คนไข้อาจมีอาการปวด บวม และช้ำหลังผ่าตัด ศัลยแพทย์จะจ่ายยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการเหล่านี้
อาการบวมและช้ำ: คนไข้อาจมีอาการบวมและช้ำบริเวณที่ผ่าตัด คนไข้ต้องยกศีรษะขึ้นเพื่อช่วยลดอาการบวมและช้ำ
การดูแลบาดแผล: คนไข้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ในการดูแลแผลผ่าตัด เช่น การรักษาแผลให้แห้งและสะอาด การปิดแผลด้วยผ้าพันแผล
การพบแพทย์เพื่อติดตามผลการรักษา: คนไข้ต้องพบศัลยแพทย์เป็นระยะหลังผ่าตัดเพื่อติดตามผลการรักษา เพื่อให้ผลการผ่าตัดเป็นไปตามที่คาดไว้
หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก: คนไข้ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากซึ่งอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น และอาจทำให้เลือดออกหรือมีอาการแทรกซ้อนอื่น
การป้องกันแสงแดด: คนไข้ควรหลีกเลี่ยงมิให้บริเวณที่ทำศัลยกรรมถูกแสงแดด ต้องปกป้องผิวด้วยครีมกันแดดหรือเสื้อผ้า เพื่อมิให้เกิดรอยดำหรือภาวะแทรกซ้อนอื่น
โภชนาการที่เหมาะสม: โภชนาการที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นในการช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวหลังผ่าตัด คนไข้ควรรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพและให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ

ศัลยแพทย์จะแจ้งให้คนไข้ทราบว่าเมื่อใดสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ และเมื่อใดควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมบางอย่าง

ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนของการผ่าตัดปรับรูปหน้า

การผ่าตัดปรับรูปหน้ามีความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน เช่น

ภาวะเลือดออก: บริเวณที่ผ่าตัดอาจมีเลือดออกระหว่างหรือหลังผ่าตัด คนไข้อาจต้องรับการรักษาเพิ่มเติมเพื่อหยุดเลือด
การติดเชื้อ: บริเวณที่ผ่าตัดอาจติดเชื้อหากไม่ดูแลบาดแผลอย่างเหมาะสม คนไข้อาจต้องได้รับการรักษาเพิ่มเติมเพื่อควบคุมการติดเชื้อ
แผลเป็น: การผ่าตัดปรับรูปหน้าอาจทำให้เกิดแผลเป็น ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนในบางบริเวณของใบหน้า
อาการชาหรือรู้สึกเสียวซ่า: คนไข้อาจมีอาการชาหรือรู้สึกเสียวซ่าบริเวณที่ผ่าตัด เนื่องจากการบาดเจ็บที่เส้นประสาทระหว่างการทำหัตถการ
ผลลัพธ์ที่ไม่น่าพอใจ: คนไข้อาจไม่พอใจผลการผ่าตัดซึ่งอาจต้องเข้ารับการผ่าตัดเพิ่มเติมเพื่อแก้ไข
ภาวะแทรกซ้อนจากการดมยาสลบ: การดมยาสลบอาจมีความเสี่ยง เช่น การแพ้หรือภาวะแทรกซ้อนจากการระงับประสาท
ความเปลี่ยนแปลงด้านความรู้สึกทางผิวหนัง: คนไข่บางรายอาจมีความเปลี่ยนแปลงด้านความรู้สึกทางผิวหนังบริเวณที่ผ่าตัด เช่น ความไวต่อการสัมผัสที่เพิ่มขึ้นหรือความรู้สึกที่ลดลง
การเปลี่ยนแปลงของเส้นขน: เส้นขนบริเวณที่ผิวหนังถูกเลาะหรือเปลี่ยนตำแหน่งอาจได้รับผลกระทบ

ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้เกิดขึ้นได้ยาก คนไข้ส่วนใหญ่ฟื้นตัวได้เร็วและพอใจกับผลการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม คนไข้ควรปรึกษาศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และปฏิบัติตามคำแนะนำหลังผ่าตัดเพื่อลดการเกิดความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน

การพักฟื้น

การพักฟื้นจากการผ่าตัดปรับรูปหน้าขึ้นอยู่กับหัตถการและสุขภาพของคนไข้แต่ละคน

อาการปวดและบวม: คนไข้อาจมีอาการปวดบวมบริเวณที่ผ่าตัด ศัลยแพทย์อาจจ่ายยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการ อาการบวมและช้ำจะหายภายใน 1-2 สัปดาห์
รอยช้ำ: รอยช้ำเป็นเรื่องปกติหลังผ่าตัดปรับรูปหน้า แต่จะหายภายใน 1-2 สัปดาห์
การดูแลแผลผ่าตัด: คนไข้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ในการดูแลแผลผ่าตัด เช่น การรักษาแผลให้แห้งและสะอาด การปิดแผลด้วยผ้าพันแผล
การนัดหมายเพื่อติดตามผล: คนไข้จะต้องพบศัลยแพทย์เป็นระยะหลังผ่าตัด เพื่อติดตามผลการรักษา และเพื่อให้ผลการผ่าตัดเป็นไปตามที่คาดไว้
กิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก: คนไข้ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากเป็นเวลาหลายสัปดาห์หลังผ่าตัด เพื่อให้ร่างกายสามารถฟื้นตัวได้อย่างเหมาะสม
การป้องกันแสงแดด: คนไข้ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดในบริเวณที่ทำศัลยกรรม และปกป้องผิวด้วยครีมกันแดดหรือเสื้อผ้า เพื่อป้องกันมิให้เกิดรอยดำหรือภาวะแทรกซ้อนอื่น
โภชนาการที่เหมาะสม: โภชนาการที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นต่อการฟื้นตัวของร่างกายหลังผ่าตัด คนไข้ควรรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพและดื่มน้ำเป็นประจำ

เวลาในการพักฟื้นอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหัตถการของการผ่าตัดปรับรูปหน้า ศัลยแพทย์จะแจ้งให้ทราบว่าเมื่อใดที่คนไข้สามารถกลับไปทำกิจกรรมตามปกติได้ และเมื่อใดที่คนไข้ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมบางอย่าง