การผ่าตัดดึงหน้า แก้ความหย่อนคล้อยโดยใช้ไหมละลาย "Endotine"

การผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้ไหมละลาย Endotine คืออะไร

          การผ่าตัดดึงหน้า แก้ไขความหย่อนคล้อย ของใบหน้า โดยใช้วัสดุสังเคราะห์เหมือนไหมละลาย เป็นแท่งยาว ๆ  ดึงกล้ามเนื้อที่แก้มที่หย่อนคล้อยไปผูกติดกล้ามเนื้อที่ขมับ เปิดแผลที่ขมับ ประมาณ 5-6 เซนติเมตร

          การผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้วัสดุสังเคราะห์เป็นหัตถการดึงหน้าประเภทหนึ่งที่มีแผลน้อยที่สุด โดยใช้วัสดุขนาดเล็กแบบเดียวกับไหมละลาย เรียกว่า "Endotine" โดยศัลยแพทย์จะสอดไหม "Endotine" ผ่านแผลที่ขมับขนาด 5-6 เซนติเมตร เปิดเลาะเนื้อเยื่อ เอาไหม "Endotine" ไป เกี่ยวดึงกล้ามเนื้อแก้มที่หย่อนคล้อย เพื่อยกและพยุงกล้ามเนื้อแก้มที่หย่อนคล้อยให้ตึงขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่หย่อนคล้อยถูกดึงมาอยู่ที่แก้ม ทำให้แก้มดูอูมอิ่ม เต่งตึง แล้วดึงไหม "Endotine" ผูกติดกับกล้ามเนื้อที่ขมับ ตัดหนังส่วนเกินออกแล้วเย็บปิดแผล เมื่อเวลาผ่านไป 3-6 เดือน ไหม "Endotine" จะละลายไปเองแต่ยังคงทำให้กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่แก้มกระชับเหมือนเดิม  ทำให้ใบหน้าอูมอิ่มเต่งตึงสดใส ดูอ่อนเยาว์

          การผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้วัสดุเหมือนไหมละลาย "Endotine" จะแก้ไขความหย่อนคล้อยบริเวณใบหน้าส่วนกลางและส่วนล่าง รวมถึงแก้มและลำคอ มีแผลน้อยกว่าการผ่าตัดดึงหน้าแบบเดิม และอาจใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่า

ข้อดีของการผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้ไหมละลาย "Endotine"

          การใช้ไหม "Endotine" ในการผ่าตัดดึงหน้ามีข้อดีมากกว่าเทคนิคดึงหน้าแบบเดิมหลายประการ เช่น

  1. มีแผลน้อย: การผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้วัสดุไหมละลาย "Endotine"  จะเปิดแผลที่ขมับประมาณ5-6 เซนติเมตร  เลาะใต้ผิวหนังมาที่แก้มที่หย่อนคล้อย ทำให้เนื้อเยื่อโดยรอบเสียหายน้อย มีเลือดออกน้อย และใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่าการผ่าตัดดึงหน้าแบบดั้งเดิม
  2. ผลการรักษาดูเป็นธรรมชาติ: วัสดุไหมละลาย "Endotine"ถูก ออกแบบมามีตะขอเกี่ยวที่แข็งแรง เพื่อยกกล้ามเนื้อแก้มและคอที่หย่อนคล้อย และเปลี่ยนตำแหน่งของเนื้อเยื่อที่หย่อนคล้อยที่อยู่ด้านล่างของใบหน้า ให้ยกกระชับสู่งขึ้น  ส่งผลให้ใบหน้าอูมอิ่ม ผิวหนังเต่งตึง แลดูสดใสและอ่อนวัย อย่างเป็นธรรมชาติ
  3. ความยาวของไหม "Endotines" สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ: สามารถเลือก ตำแหน่งที่ต้องการแก้ไขความหย่อนคล้อยของใบหน้า เช่น ที่แก้ม กราม หรือลำคอ โดยใช้ไหม"Endotines"ชนิดและแบบเดียวกัน มาเกี่ยวดึงส่วนที่หย่อนคล้อย  แล้วดึงให้ตึงไปที่ขมับ สามารถปรับแต่งความยาวของไหม"Endotines ให้เหมาะกับความต้องการ
  4. ให้ผลการรักษาที่ยาวนาน: วัสดุไหมละลาย "Endotine" ทำจากวัสดุทางชีวภาพที่เข้ากับร่างกายได้ ร่างกายจึงสามารถละลายไหม "Endotine" เมื่อเวลาผ่านไป 3-6เดือน แต่ยังคงความตึงของใบหน้าได้อีกหลายปึ
  5. การฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว: การผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้วัสดุไหมละลาย"Endotine" มีแผลน้อยที่สุด ระยะเวลาในการพักฟื้นจึงน้อยกว่าการผ่าตัดดึงหน้าแบบเดิม คนไข้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และกลับมาทำกิจกรรมประจำวันได้เร็วขึ้น

ใครเหมาะกับการผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้ไหมละลาย "Endotine"

          ผู้ที่เหมาะกับการผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้ไหมละลาย "Endotine" ได้แก่

  • ใบหน้าส่วนกลางและส่วนล่างหย่อนคล้อยเล็กน้อยหรือปานกลาง เช่น แก้มและลำคอ
  • มีสุขภาพดี
  • มีความคาดหวังที่สามารถทำให้เป็นจริงได้ด้วยการศัลยกรรม

          ผู้ที่มีอาการต่อไปนี้ไม่เหมาะกับการผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้ไหมละลาย "Endotine" 

  • ผิวหน้าหย่อนคล้อย และมีผิวหนังเหลือเยอะที่ต้องตัดออก  
  • ผิวหนังมีความยืดหยุ่นน้อย

          คนไข้ควรขอคำปรึกษาจากศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อประเมินความต้องการส่วนบุคคล ศัลยแพทย์จะให้คำแนะนำว่าการผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้ไหมละลาย "Endotine" เหมาะสมกับคนไข้หรือไม่ ศัลยแพทย์จะพิจารณาประวัติทางการแพทย์ ประเภทผิว และสุขภาพของคนไข้ก่อนให้คำแนะนำ

ทำไมจึงต้องเข้ารับการผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้ไหมละลาย "Endotine"

          เหตุผลหลายประการที่ผู้คนต้องเข้ารับการผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้ไหมละลาย "Endotine" ได้แก่ 

  • เพื่อแก้ไขความหย่อนคล้อยบริเวณใบหน้าส่วนกลางและส่วนล่าง เช่น แก้มและลำคอ
  • เพื่อยกและเปลี่ยนตำแหน่งของผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ใบหน้าให้อูมอิ่ม 
  • เพื่อให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น
  • เพื่อเพิ่มความมั่นใจในตนเอง
  • เพื่อแก้ไขความไม่พอใจในรูปลักษณ์ของใบหน้าส่วนกลางและส่วนล่าง เพราะอายุที่มากขึ้นหรือปัจจัยอื่น

การผ่าตัดไม่ได้ทำให้สุขภาพดีขึ้น ผลการผ่าตัดอาจไม่ถาวร คนไข้ต้องมีความคาดหวังที่เป็นจริงและปรึกษาศัลยแพทย์ก่อนการผ่าตัด

การผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้ไหมละลาย "Endotine" ใช้เทคนิคใดบ้าง

          การผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้ไหมละลาย "Endotine" ใช้เทคนิคหลายอย่าง ขึ้นอยู่กับความต้องการและเป้าหมายของคนไข้ เทคนิคที่ใช้ ได้แก่

  1. การยกใบหน้าส่วนกลางด้วยไหมละลาย Endotine: เทคนิคนี้ยกและเปลี่ยนตำแหน่งของแก้มและใบหน้าส่วนกลาง ศัลยแพทย์จะกรีดบริเวณไรผมหรือภายในเปลือกตาล่าง
  2. การดึงหน้าผากด้วยไหมละลาย Endotine: เทคนิคนี้ยกและเปลี่ยนตำแหน่งของหน้าผากและคิ้ว ศัลยแพทย์จะกรีดบริเวณไรผม
  3. การดึงคิ้วด้วยไหมละลาย Endotine: เทคนิคนี้ยกและเปลี่ยนตำแหน่งของคิ้ว ศัลยแพทย์จะกรีดที่แนวตีนผมหรือภายในเปลือกตาล่าง
  4. การผ่าตัดดึงคอ และแนวกราม ด้วยไหมละลาย Endotine: เทคนิคนี้ยกและเปลี่ยนตำแหน่งของคอและแนวกราม ศัลยแพทย์จะกรีดที่หลังใบหูหรือใต้คาง

ศัลยแพทย์อาจใช้เทคนิคใดเทคนิคหนึ่งหรือหลายเทคนิคก็ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการและเป้าหมายของคนไข้ ผลการรักษาสามารถเห็นได้ในทันทีหลังผ่าตัด

การเตรียมตัวเพื่อการผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้ไหมละลาย "Endotine"

          ผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้ไหมละลาย "Endotine" ควรเตรียมตัว ดังนี้

  • การปรึกษาแพทย์: ก่อนการผ่าตัด คนไข้จะได้รับคำปรึกษาจากศัลยแพทย์เพื่อรับทราบเป้าหมายและขั้นตอนการผ่าตัด ศัลยแพทย์จะวินิจฉัยใบหน้าของคนไข้ ถ่ายรูป และแจ้งความเสี่ยงและประโยชน์ของการผ่าตัด
  • การประเมินว่าเหมาะสมที่จะผ่าตัดหรือไม่: ศัลยแพทย์จะวินิจฉัยเพื่อให้มั่นใจว่าคนไข้เหมาะกับการผ่าตัดดึงหน้า ศัลยแพทย์จะซักถามประวัติทางการแพทย์ของคนไข้ และยาที่คนไข้กำลังใช้อยู่
  • หยุดสูบบุหรี่: หากคนไข้สูบบุหรี่ ศัลยแพทย์จะขอให้หยุดสูบบุหรี่เป็นเวลาหลายสัปดาห์ก่อนและหลังการผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อน
  • หลีกเลี่ยงยาบางชนิดที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด: ศัลยแพทย์จะแนะนำให้คนไข้หลีกเลี่ยงการใช้ยาบางชนิด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน และยาลดความอ้วนเป็นเวลานานหลายสัปดาห์ก่อนการผ่าตัด เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการตกเลือดและอาการช้ำ
  • วางแผนการพักฟื้น: คนไข้จะต้องวางแผนหยุดงานและกิจกรรมอื่นเพื่อให้มีเวลาพักฟื้นที่เพียงพอ ศัลยแพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตนเองหลังผ่าตัด

คนไข้ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์อย่างเคร่งครัด บอกความกังวล หรือตั้งคำถามก่อนการผ่าตัด

การดูแลหลังผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้ไหมละลาย "Endotine"

          การดูแลหลังผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้ไหมละลาย "Endotine" ได้แก่

  • การจัดการความเจ็บปวด: คนไข้อาจมีอาการปวด บวม และไม่สบายตัวในช่วงหลังผ่าตัด ศัลยแพทย์อาจสั่งยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการไม่สบาย
  • อาการบวมและฟกช้ำ: อาการบวมและฟกช้ำบริเวณผ่าตัดเป็นเรื่องปกติ และจะหายไปภายในไม่กี่วันถึงหนึ่งสัปดาห์
  • แผล: ศัลยแพทย์จะปิดแผลด้วยการเย็บ 
  • การหนุนศีรษะให้สูง: คนไข้ควรหนุนศีรษะให้สูงในช่วง 2-3 วันแรกเพื่อลดอาการบวมและฟกช้ำ
  • การประคบเย็น: การประคบเย็นบริเวณที่ผ่าตัดสามารถช่วยลดอาการบวมและฟกช้ำ
  • การนัดหมายเพื่อติดตามผล: ศัลยแพทย์จะนัดหมายเพื่อติดตามผลการรักษา ทำให้มั่นใจว่าคนไข้ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรม: คนไข้ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด รวมถึงการงอ การยก และการออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงมาก
  • เวลาในการพักฟื้น: ระยะเวลาในการพักฟื้นของการผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้ไหมละลาย "Endotine" จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล คนไข้สามารถกลับไปทำงานและทำกิจกรรมได้ตามปกติภายใน 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด

หากมีความกังวลหรือสังเกตเห็นอาการผิดปกติ ควรติดต่อศัลยแพทย์ทันที

ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนของการผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้ไหมละลาย "Endotine"

          การผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้ไหมละลาย "Endotine" มีความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน อันได้แก่

  • การติดเชื้อ: การผ่าตัดดึงหน้าเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • เลือดคั่ง (Hematoma): เลือดคั่ง คือ เลือดที่อยู่นอกหลอดเลือด อาจเกิดขึ้นได้หลังผ่าตัด
  • การบาดเจ็บที่เส้นประสาท: การผ่าตัดดึงหน้าเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่เส้นประสาทและหลอดเลือดในบริเวณที่ผ่าตัด
  • แผลเป็น: การผ่าตัดจะทำให้เกิดแผลเป็นบริเวณรอยกรีดซึ่งอาจมองเห็นหรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของแผลเป็น
  • ภาวะแทรกซ้อนจากการดมยาสลบ: การผ่าตัดดึงหน้าเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนอันเกิดจากการดมยาสลบ
  • ความไม่สมดุลของใบหน้า: การผ่าตัดดึงหน้าอาจทำให้เกิดความไม่สมดุลขององค์ประกอบบนใบหน้า
  • ผลการรักษาไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง: คนไข้อาจไม่พอใจในผลการรักษาที่ได้
  • ผลกระทบระยะยาว: การผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้ไหมละลาย "Endotine" เป็นเทคนิคใหม่ จึงไม่ทราบผลที่ตามมาในระยะยาว

คนไข้ต้องปรึกษาศัลยแพทย์เพื่อรับทราบความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นก่อนการผ่าตัด ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนขึ้นอยู่กับสภาวะของคนไข้แต่ละคน

การพักฟื้น

          ระยะเวลาการพักฟื้นของการผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้ไหมละลาย "Endotine" อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับเทคนิคการผ่าตัดที่ศัลยแพทย์เลือกใช้ การพักฟื้นหลังการผ่าตัดดึงหน้ามีดังนี้:

  • ความเจ็บปวดและไม่สบายตัว: คุณอาจมีอาการปวด บวม และไม่สบายตัวในช่วงวันหลังการผ่าตัด สามารถจ่ายยาแก้ปวดเพื่อช่วยจัดการกับอาการไม่สบายได้
  • อาการบวมและฟกช้ำ: อาการบวมและช้ำบริเวณที่ทำการผ่าตัดเป็นเรื่องปกติและควรหายไปภายในไม่กี่วันถึงหนึ่งสัปดาห์
  • การดูแลแผล: แผลจะถูกปิดด้วยการเย็บ ซึ่งศัลยแพทย์จะทำการถอดออกในวันหลังการผ่าตัด คุณจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการดูแลบริเวณที่เกิดแผลเพื่อส่งเสริมการรักษาและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
  • การยกศีรษะขึ้น: คุณควรยกศีรษะขึ้นในช่วง 2-3 วันแรกเพื่อช่วยลดอาการบวมและช้ำ
  • การประคบเย็น: การประคบเย็นบริเวณที่ทำการผ่าตัดสามารถช่วยลดอาการบวมและช้ำได้
  • การนัดหมายติดตามผล: ศัลยแพทย์ของคุณจะกำหนดเวลาการนัดหมายติดตามผลเพื่อติดตามความคืบหน้าของคุณและเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง

คนไข้ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์อย่างเคร่งครัด และพบศัลยแพทย์ตามที่นัดหมายเพื่อติดตามผลการรักษา หากมีข้อกังวลหรือสังเกตเห็นอาการผิดปกติควรติดต่อศัลยแพทย์ทันที