การผ่าตัดยกกระชับผิวหนังใต้คาง และลำคอคืออะไร
การผ่าตัดยกกระชับผิวหนังใต้คางและลำคอ เป็นการศัลยกรรมตกแต่งเพื่อปรับปรุงแก้ไขผิวหนังที่หย่อนคล้อยบริเวณใต้คางและลำคอรวมถึงแนวกรามด้วยการดึงกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อย ให้ตึงขึ้น ขจัดไขมันส่วนเกินใต้คาง และเย็บกระชับกล้ามเนื้อที่ลำคอให้ยึดติดกัน ทำให้กล้ามเนื้อคอตึงขึ้น ยกและเย็บกระชับเนื้อเยื่อที่หย่อนคล้อยบริเวณลำคอด้านล่างให้ตึง ถ้าบริเวณใต้คางมีไขมันสะสมอยู่มากจนห้อยย้อย ต้องใช้การดูดไขมัน บริเวณใต้คางให้บางเรียบ ถ้ามีหนังส่วนเกินที่ใต้คาง จะทำการเปิดแผลที่บริเวณรอยพับใต้คางด้านใน ดึงผิวหนังที่หย่อนคล้อยของลำคอและใต้คางให้ตึง แล้วตัดหนังส่วนเกินออก ทำให้ลำคอและใต้คางตึงกระชับ ขณะเดียวกันถ้ามีผิวหนังที่หย่อนคล้อยบริเวณแนวกรามและคาง สามารถเปิดแผลดึงผิวหนัง บริเวณแนวกรามและคาง ไปเย็บกระชับที่บริเวณหน้าหูและ หลังหู แล้วตัดหนังส่วนเกินออก ทำให้ได้รูปลักษณ์ของใบหน้า กราม คาง และลำคอที่เต่งตึง สวยงาม อย่างชัดเจนและดูอ่อนเยาว์
ผู้ที่เหมาะสมทำการผ่าตัดผ่าตัด แก้ไขความหย่อนคล้อยของใต้คางและลำคอ (Neck Lift/Neck Tuck Surgery)
ผู้ที่เหมาะสมสำหรับการผ่าตัดผ่าตัด แก้ไขความหย่อนคล้อยของใต้คางและลำคอ จะต้อง
- มีสุขภาพดี ไม่มีปัญหาในการดมยาสลบ
- มีความคาดหวังที่เป็นไปได้จากการศัลยกรรมผ่าตัดแก้ไขความหย่อนคล้อยของใต้คางและลำคอ
- มีปัญหาผิวหนังหรือไขมันส่วนเกิน หรือกล้ามเนื้อหย่อนคล้อยบริเวณลำคอและกราม
- มีความยืดหยุ่นของผิวหนังที่ดีและแนวกรามที่ชัดเจน
- มีผิวหนังส่วนเกินหรือ หย่อนคล้อย ที่ใต้คางและลำคอ
- มี “คางสองชั้น” ที่เกิดจากไขมันที่สะสมเกิน
- มีผิวหนังหรือกล้ามเนื้อบริเวณแนวกรามและคาง หย่อนคล้อย
- สูญเสียความคมชัดบริเวณกรามหรือลำคอ
ทำไมถึงต้องทำ การผ่าตัดกระชับลำคอ / การผ่าตัดดึงคอ
เหตุผลที่ผู้คนเข้ารับการผ่าตัดกระชับลำคอ / การผ่าตัดดึงคอ ได้แก่
- เพื่อกำจัด "เหนียงไก่งวง" หรือผิวหนังส่วนเกินเป็นชั้นๆบริเวณลำคอ
- เพื่อลดการเกิด “คางสองชั้น” ที่เกิดจากไขมันสะสมส่วนเกิน
- เพื่อกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณกราม
- เพื่อให้แนวกรามและลำคอคมชัด
- เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้ลำคอและกราม
- เพื่อสร้างความมั่นใจ
- เพื่อแก้ไขลำคอและแนวกรามที่หย่อนคล้อยเมื่ออายุมากขึ้นหรือเมื่อลดน้ำหนัก
คนไข้ควรปรึกษาศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการผ่าตัดกระชับลำคอ / การผ่าตัดดึงคอ เพื่อพิจารณาว่าการผ่าตัดกระชับลำคอ / การผ่าตัดดึงคอ เหมาะสมกับคนไข้หรือไม่
การผ่าตัดกระชับลำคอ / การผ่าตัดดึงคอ ใช้เทคนิคการศัลยกรรมใดบ้าง
การผ่าตัดกระชับลำคอ / การผ่าตัดดึงคอ ใช้เทคนิคการศัลยกรรมต่างๆ ร่วมกัน ศัลยแพทย์จะเลือกใช้เทคนิคใดนั้น จะขึ้นอยู่กับความต้องการและเป้าหมายของคนไข้แต่ละบุคคล เทคนิคที่ศัลยแพทย์ใช้บ่อยที่สุด ได้แก่
- การดูดไขมัน: เทคนิคนี้ขจัดไขมันส่วนเกินออกจากลำคอและแนวกรามโดยใช้ท่อขนาดเล็กและบางที่เรียกว่า cannula
- การยกคอ (Platysmaplasty): เทคนิคนี้จะกรีดใต้คางและกระชับกล้ามเนื้อ Platysma ซึ่งยาวตั้งแต่กระดูกไหปลาร้าไปจนถึงแนวกราม
- กระดูกคอ (Cervicoplasty): เทคนิคนี้ขจัดผิวหนังส่วนเกินออกจากลำคอ ศัลยแพทย์จะกรีดบริเวณหลังใบหูและแนวไรผม
- SMASectomy: เทคนิคนี้เป็นการผ่าตัดยกกระชับกล้ามเนื้อส่วนลึก ของใบหน้าและลำคอ เพื่อกล้ามเนื้อส่วนล่างกระชับตึงมากที่สุด แล้วดึงเนื้อเยื่อบนกล้ามเนื้อให้ตึงตามกล้ามเนื้อ ดึงผิวหนังให้ตึงตามกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อ ตัดหนังส่วนเกินออกเย็บปิดแผลให้เรียบร้อย
- การดูดไขมันใต้คางพร้อมยกกระชับกล้ามเนื้อใต้คาง (Submentoplasty): เทคนิคนี้กำจัดไขมันส่วนเกินและ/หรือผิวหนังออกจากใต้คางและแนวกราม
เทคนิคต่าง ๆ เหล่านี้สามารถนำมาใช้ร่วมกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการและเป้าหมายของคนไข้แต่ละบุคคล รวมถึงประสบการณ์ของศัลยแพทย์
คนไข้ควรเตรียมตัวอย่างไร
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดกระชับลำคอ / การผ่าตัดดึงคอ ได้แก่
- ตรวจสุขภาพ ตรวจเลือด และเอกซเรย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- งดยาหรืออาหารเสริมบางชนิดที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการตกเลือด เช่น แอสไพริน และยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) ตลอดจนหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และนิโคตินอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
- หยุดสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
- เตรียมที่พักอาศัยให้พร้อมสำหรับการพักฟื้น กักตุนของใช้ที่จำเป็น เช่น ถุงน้ำแข็ง ยาแก้ปวด และอาหารอ่อน
- ก่อนการผ่าตัด ปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ รวมถึงข้อจำกัดด้านอาหารและเครื่องดื่ม
- หลังการผ่าตัด สวมเสื้อผ้าที่หลวม ใส่สบาย และสามารถถอดเข้า-ออกได้ง่าย
คนไข้ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ ต้องเปิดเผยประวัติการรักษาพยาบาล และบอกชื่อยาที่คนไข้ใช้ให้ศัลยแพทย์ทราบ ก่อนทำหัตถการ
การดูแลหลังผ่าตัดกระชับลำคอ / การผ่าตัดดึงคอ
การดูแลหลังผ่าตัดกระชับลำคอ / การผ่าตัดดึงคอ จะแตกต่างกันไปในคนไข้แต่ละบุคคล รวมถึงเทคนิคการผ่าตัดที่ศัลยแพทย์เลือกใช้ คนไข้ควรทำสิ่งเหล่านี้ในการดูแลหลังผ่าตัด
- สวมที่รัดหน้า (compression garment) หรือผ้าพันแผลแบบยืด เพื่อช่วยลดอาการบวม พยุงลำคอและแนวกราม
- ประคบน้ำแข็งบริเวณลำคอและแนวกราม เพื่อช่วยลดอาการบวมและความรู้สึกไม่สบายตัว
- รับประทานยาแก้ปวดตามใบสั่งแพทย์ เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดหรือความรู้สึกไม่สบาย
- ยกศีรษะขึ้นขณะนั่งหรือนอน เพื่อช่วยลดอาการบวม
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก รวมทั้งการออกกำลังกายอย่างหักโหม เป็นเวลานานหลายสัปดาห์ หลังการผ่าตัด เพื่อให้ลำคอและแนวกรามหายดี
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดอาการตึงหรือทำให้ลำคอเคลื่อนไหวมากเกินไป เช่น การก้มตัวหรือการพลิกศีรษะอย่างรวดเร็ว
- รักษาบริเวณแผลให้แห้งและสะอาด เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
หลังการผ่าตัด คนไข้อาจมีอาการบวม ช้ำ ชา หรือตึงบริเวณที่ผ่าตัด
คนไข้ต้องมาพบศัลยแพทย์ตามนัดหมายทุกครั้ง ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำหลังผ่าตัดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มั่นใจว่าการฟื้นตัวจะราบรื่นและได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด
ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนของการผ่าตัดกระชับลำคอ / การผ่าตัดดึงคอ
การผ่าตัดกระชับลำคอ / การผ่าตัดดึงคอมีความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่:
- มีเลือดออกหรือติดเชื้อ
- อาการชา รู้สึกเสียวซ่า หรือสูญเสียความรู้สึกในผิวหนังบริเวณคอและแนวกราม
- แผลเป็น
- การสร้างเม็ดสีที่ไม่พึงประสงค์
- ความไม่เท่ากันของคาง
- ผลการผ่าตัดที่อาจจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
- การผ่าตัดซ้ำ
- ภาวะแทรกซ้อนจากการดมยาสลบ
- เส้นเลือดขอด
- เส้นประสาทเสียหาย / เส้นเลือดฉีกขาด
- การสูญเสียความรู้สึกบริเวณผิวหนัง
- ความเจ็บปวดหรือความไม่สบายตัว
- อาการบวมและฟกช้ำ
ภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวข้างต้นอาจเกิดขึ้นไม่บ่อยและเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คนไข้ควรรับทราบและตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดโดยมีข้อมูลประกอบที่มากและเพียงพอ
คนไข้ควรปรึกษาศัลยแพทย์เพื่อรับทราบความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัด และปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการผ่าตัดอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน หากคนไข้สังเกตเห็น/มีอาการของภาวะแทรกซ้อน ต้องรีบแจ้งให้ศัลยแพทย์ทราบทันที
การพักฟื้น
การพักฟื้นจากการผ่าตัดกระชับลำคอหรือการผ่าตัดดึงคออาจแตกต่างกันไปในคนไข้แต่ละคน
- คนไข้อาจมีอาการบวมช้ำบริเวณผ่าตัด อาการอาจคงอยู่นานหลายสัปดาห์ อาจมีอาการเจ็บและไม่สบายตัว แต่สามารถบรรเทาได้ด้วยยาที่ศัลยแพทย์สั่งจ่าย
- ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมและการออกกำลังกายที่ต้องหักโหม อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์
- คนไข้อาจต้องสวมที่รัดหน้าบริเวณรอบลำคอและคางนานหลายสัปดาห์ เพื่อช่วยลดอาการบวมและช่วยกระชับใบหน้า คนไข้ต้องยกศีรษะสูงเวลานอน เพื่อช่วยลดอาการบวม
หลังการผ่าตัด คนไข้ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ เช่น หลีกเลี่ยงอาหาร เครื่องดื่ม และยาบางชนิด รวมถึงการดูแลแผลอย่างเหมาะสม
ผลการผ่าตัดอาจไม่สามารถมองเห็นได้ในทันที เนื่องจากต้องใช้เวลานานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนก่อนที่อาการบวมจะทุเลาลง เมื่อหายดีแล้ว ผลของการผ่าตัดจะปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน
การพักฟื้นจากการผ่าตัดกระชับลำคอหรือการผ่าตัดดึงคออาจใช้เวลานานหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน หากคนไข้ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ก็จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ และทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในไม่กี่สัปดาห์ การพักฟื้นจะแตกต่างกันไปในคนไข้แต่ละราย