เมื่ออายุมากขึ้นก็เป็นปกติที่จะเกิดปัญหาหน้าย่น ผิวเหี่ยว ผิวหย่อนคล้อย เนื่องจากร่างกายมีการสร้างคอลลาเจนลดน้อยลง หรือสูญเสียปริมาตรผิว ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูมีอายุ แต่ขณะเดียวกันก็มีบางคนที่อายุก็ไม่เยอะ แต่ต้องเผชิญกับปัญหาผิวหย่อนคล้อยก่อนวัย ที่อาจทำให้ขาดความมั่นใจได้ วันนี้เราจึงขอรวบรวมเอาสาเหตุของปัญหาผิวเหี่ยวย่นก่อนวัย พร้อมกับวิธีแก้ปัญหาดังกล่าวมาฝากกัน ตามมาอ่านพร้อม ๆ กันได้เลย
หน้าย่น หน้าเหี่ยว เกิดจากอะไร
ปัญหาหน้าย่น ผิวเหี่ยว หรือผิวหย่อนคล้อยนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น
ร่างกายผลิตคอลลาเจนใต้ผิวลดน้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น ขณะเดียวกันคอลลาเจนที่มีอยู่ก็เสื่อมสภาพลง ร่วมกับมวลกระดูกยุบตัว สูญเสียปริมาตรไขมันบนใบหน้า ก็ทำให้ผิวที่เคยเต่งตึงขาดความกระชับและเกิดความเหี่ยวย่น หย่อนคล้อยในที่สุด
การสัมผัสแสงแดด ทำให้รังสี UVA UVB และสารอนุมูลอิสระทำลายโครงสร้างผิวจนอ่อนแอ และเกิดเป็นปัญหาหน้าย่น เกิดริ้วรอยง่าย และผิวหย่อนคล้อยก่อนวัย
พฤติกรรมบริโภคอาหารที่มีน้ำตาล และคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป ซึ่งมีส่วนกระตุ้นอนุมูลอิสระในร่างกาย ทำให้คอลลาเจนในผิวลดลง และเกิดเป็นปัญหาผิวหน้าเหี่ยวย่นตามมาได้
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลเสียต่อร่างกายเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวด้วย ทำให้ผิวแห้งขาดน้ำ เกิดปัญหาผิวเหี่ยวย่น และเกิดริ้วรอยเห็นชัดได้
พฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ทำร้ายผิวไม่รู้ตัว เช่น การล้างหน้า ขัดผิวหน้าแรง ๆ การนอนตะแคง การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ตลอดจนการแสดงสีหน้า อารมณ์ต่าง ๆ
หน้าย่น หน้าเหี่ยว ส่งผลเสียอย่างไรบ้าง
เมื่อไหร่ที่สัมผัสได้ว่ามีปัญหาหน้าย่น ผิวเหี่ยว หรือสังเกตเห็นถึงริ้วรอย ความหย่อนคล้อยของผิว ก็อาจรู้สึกขาดความมั่นใจได้ โดยเฉพาะเวลาถูกทักว่าหน้าดูมีอายุ หรือหน้าแก่ ไม่เพียงเท่านั้น ปัญหาหน้าย่น ผิวหย่อนคล้อยยังส่งผลทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไป ทั้งกรอบหน้าไม่ชัด คิ้วตก หางตาตก หน้าผากเป็นร่อง ซึ่งจะส่งผลเสียต่อโหงวเฮ้งใบหน้าได้ อีกทั้งยังทำให้แต่งหน้ายาก แต่งหน้าตกร่องอีกด้วย
แนะนำ 5 วิธีแก้ปัญหาหน้าย่น หน้าเหี่ยว
สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาหน้าย่น ผิวเหี่ยว สาเหตุที่ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูมีอายุเกินวัยอยู่ และเลือกใช้สกินแคร์ดูผิวอย่างดีมาแล้ว ก็ไม่เอาอยู่นั้น บทความนี้เรามี 5 วิธีกู้หน้าย่น ผิวเหี่ยวด้วยหัตถการทางการแพทย์ที่เห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน มาฝากกัน ดังนี้
1. ฉีดโบท็อก
วิธียอดนิยมที่จะช่วยหยุดหน้าย่น ผิวเหี่ยวได้แบบเร่งด่วนทันใจ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เสียเวลาพักฟื้นเลยก็คือ การฉีดโบท็อก หรือการใช้สาร Botulinum Toxin ที่สามารถช่วยให้ริ้วรอยที่มีอยู่ลดน้อยลง และชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่บนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีเทคนิคพิเศษในการช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้เต่งตึงมากขึ้นด้วย ซึ่งถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยสูง เพราะสารนี้จะสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ตกค้างเหลืออยู่ในร่างกาย
2. ศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า
สำหรับใครที่อยากสัมผัสหน้าตึงกระชับห่างไกลปัญหาหน้าย่น เหี่ยว หรือหย่อนคล้อยแบบยาวนานนับ 5 ปี 10 ปีล่ะก็ การศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า (Facelift Surgery) ถือเป็นวิธีที่ตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้อย่างตรงจุด เพราะสามารถดึงชั้นผิวที่หย่อนคล้อยได้ลึกถึงชั้น SMAS และอาจมีการตัดแต่งผิวหน้าที่เหี่ยวย่นออกร่วมด้วย หลังทำจะได้ใบหน้าที่ตึงกระชับแลดูอ่อนเยาว์กว่าที่เคยอย่างแน่นอน
แต่อย่างไรก็ตามวิธีนี้จะต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้น และต้องดูแลแผลหลังทำเป็นอย่างดี เพื่อป้องกันแผลติดเชื้อและป้องกันการเกิดผลแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา
3. ร้อยไหม
ร้อยไหม เป็นหัตถการทางการแพทย์ที่อาศัยการใช้ไหมเงี่ยงเกี่ยวรั้งชั้นผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ทำให้หลังทำผิวมีความตึงกระชับ ห่างไกลปัญหาหน้าย่นได้เป็นอย่างดี และสามารถช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวยได้อีกด้วย ที่สำคัญยังเป็นวิธีกู้ผิวหย่อนคล้อยที่เห็นผลได้ทันทีหลังทำ และยังมีส่วนช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวทำให้ผิวตึงกระชับ เด้งฟูขึ้นด้วยเช่นกัน
4. ฉีดฟิลเลอร์
วิธีช่วยดูแลปัญหาหน้าย่น กู้ผิวเหี่ยวยอดนิยมอีกหนึ่งวิธีก็คือการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งสามารถช่วยทดแทนการสูญเสียปริมาตรผิวที่ทำให้กลายเป็นผิวหย่อนคล้อย และร่องลึกในตำแหน่งต่าง ๆ บนใบหน้าได้เป็นอย่างดี เช่น หน้าผาก ขมับ ร่องใต้ตา ร่องแก้ม และยังมีเทคนิคในการฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้าเพื่อแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย หรือปรับโครงหน้าให้ละมุนอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย
5. HIFU
สำหรับใครที่กลัวการผ่าตัด หรือไม่อยากเจ็บตัวกับการโดนเข็มจิ้ม การทำ HIFU ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการแก้ปัญหาหน้าย่น ผิวเหี่ยวหย่อนคล้อยที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสามารถช่วยยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลงลึกถึงชั้นผิวสำหรับผ่าตัดดึงหน้าเลยทีเดียว ทั้งยังมีส่วนช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวแน่นตึงกระชับยาวนาน 6-12 เดือนเลยทีเดียว
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวหน้าย่น หรือผิวหน้าหย่อนคล้อยที่เกิดขึ้นก่อนวัยก็ดี หรือเพิ่มขึ้นตามวัยก็ดีนั้น สามารถจัดการได้หลายวิธีด้วยกัน ทั้งการฉีดโบท็อก ฟิลเลอร์ ร้อยไหม การทำ HIFU หรือแม้แต่การศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้าที่จะช่วยให้กลับมาอ่อนเยาว์ และมีผิวที่ตึงกระชับมากยิ่งขึ้นได้อีกครั้ง
สำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจว่าจะเลือกหัตถการทางการแพทย์วิธีไหนดี มาช่วยจัดการปัญหาดังกล่าวก็สามารถปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากทางโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลได้ เราพร้อมช่วยจัดการปัญหาผิวเหล่านี้อย่างตรงจุด ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้วยเครื่องมือทันสมัยได้มาตรฐาน
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ฟรี
ติดต่อโดยตรงที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่ง กมล
- โทร : 02-559-0155
- Line Official : @kamolhospital
- Facebook : https://www.facebook.com/kamolcosmetichospitalthai
โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่ง กมล ครบครันบริการด้านความงาม ยินดีให้บริการทุกท่านค่ะ