เสริมหน้าอก ชายเป็นหญิง (Feminine Breast Augmentation)
การผ่าตัดเสริมหน้าอกเป็นการผ่าตัดพื้นฐานของศัลยแพทย์ตกแต่งทั่วไป แต่การผ่าตัดเสริมหน้าอก ชายเป็นหญิง ให้สวยงามสำหรับผู้ที่เกิดมาในเพศชายนั้นยากยิ่งกว่า เนื่องจากความแตกต่างด้านโครงสร้างของทรวงอกที่แบนราบ เห็นกระดูกซี่โครงและกล้ามเนื้อชัดเจน หัวนมและปานนมมีขนาดเล็ก และไม่ได้อยู่กึ่งกลางของทรวงอก แต่อยู่ค่อนไปด้านข้าง 1/3 ของความกว้างทรวงอก
ดังนั้น ก่อนการเสริมหน้าอก ชายเป็นหญิง ต้องเตรียมตัว โดยรับฮอร์โมนเพศหญิง (Estrogen) อย่างน้อย 1 ปีขึ้นไป เพื่อไปกระตุ้นต่อมน้ำนมให้โตขึ้นบ้าง มีการปรับเปลี่ยนกล้ามเนื้อหน้าอกให้กลายเป็นไขมัน ทำให้ผิวหนังและเนื้อเยื่ออ่อนนุ่มขึ้น มีเนื้อนมเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การรับฮอร์โมนเพศหญิงเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถทำให้หน้าอกมีขนาดใหญ่ตามความต้องการ จึงจำเป็นต้องเสริมหน้าอกให้มีขนาดตามต้องการ และรูปทรงหย่อนคล้อย แกว่งไกวเหมือนธรรมชาติ การเสริมหน้าอก ชายเป็นหญิงนั้น ศัลยแพทย์ต้องมีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างสรีระของ ชายให้เป็นหญิง เพราะกล้ามเนื้อหน้าอกของผู้ชายจะแข็งแรงกว่าผู้หญิง การปรับตำแหน่งซิลิโคนเต้านม การจัดทรง ทำได้ยากกว่า เนื่องจากไหล่กว้างกว่า และตำแหน่งของหัวนมผู้ชายไม่ได้อยู่กึ่งกลาง แต่อยู่ค่อนไปด้านข้าง ดังแสดงในรูปที่ 1
รูปที่ 1: ความแตกต่างด้านขนาดและตำแหน่งของหัวนม/ปานนม ระหว่างผู้ชายและผู้หญิง
เทคนิคการผ่าตัดและประสบการณ์ของศัลยแพทย์ จะช่วยสร้างความสมดุลระหว่าง การเกิดร่องอกและตำแหน่งของหัวนม หัวนมหลังจากเสริมเต้านมแล้วต้องไม่อยู่ด้านข้างจนเกินไป นอกจากนี้ การเลือกขนาดและชนิดของซิลิโคนให้เหมาะกับความกว้างของไหล่ที่กว้างมาก และการกำหนดตำแหน่งของหัวนม ต้องสมดุลกับความกว้างของไหล่ด้วย เพื่อให้ได้เต้านมที่มีรูปทรงที่สวยงาม และสมดุลกับรูปร่างโดยรวม ดังแสดงในรูปที่ 2
รูปที่ 2: ตำแหน่งแผลผ่าตัดของเต้านมเทียม
ตำแหน่งแผลผ่าตัดจากการเสริมหน้าอก ชายเป็นหญิง มี 3 แบบ คือ
- แผลที่ปานนม
- แผลใต้รักแร้
- แผลใต้ราวนม
การผ่าตัดวางตำแหน่งเต้านมเทียมมี 3 แบบ คือ
1. ตำแหน่งเต้านมเทียมใต้เนื้อนม
2. ตำแหน่งเต้านมเทียมใต้กล้ามเนื้อ
3. ตำแหน่งเต้านมเทียมบางส่วนที่อยู่ใต้เนื้อนม และใต้กล้ามเนื้อ
รูปที่ 3: ตำแหน่งเต้านมเทียมจากการเสริมหน้าอก ชายเป็นหญิง
คุณสมบัติของผู้ที่ต้องการเสริมหน้าอก ชายเป็นหญิง
1. รับฮอร์โมนเพศหญิงมาอย่างน้อย 1 ปี
2. มีร่างกายที่สมบูรณ์ แข็งแรง
3. มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอก ชายเป็นหญิง มีดังนี้
1. ปรึกษาศัลยแพทย์ที่จะผ่าตัด พร้อมตรวจร่างกาย เอกซเรย์ปอด ตรวจเลือด ตรวจ EKG ทดสอบความอดทน ถ้าอายุเกิน 40 ปี ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกขนาดและรูปทรงของเต้านมเทียมที่เหมาะสม
2. หยุดฮอร์โมน 1-2 สัปดาห์
3. หยุดยาจำพวกแอสไพริน ยาลดการอักเสบ หรือสมุนไพรที่อาจทำให้เลือดออกผิดปกติ ต้องหยุดยาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือตามแพทย์สั่ง
4. หยุดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อลดโอกาสการเกิดเลือดไปเลี้ยงแผลไม่ดี
การเสริมหน้าอก ชายเป็นหญิง เป็นการผ่าตัดโดยใช้ซิลิโคน ศัลยแพทย์จะเปิดแผลใต้ราวนมและบริเวณปานนมเพื่อวางซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อ แม้ว่าวิธีการผ่าตัดเสริมหน้าอกในคนแปลงเพศ และผู้หญิงทั่วไปไม่แตกต่างกันก็ตาม แต่ลักษณะโครงสร้าง รูปร่างทางกายภาพแตกต่างกัน กล้ามเนื้อของผู้ชายจะตึงและมีไขมันน้อยกว่าผู้หญิง การมีเทคนิคผ่าตัดศัลยกรรมที่หลากหลายจะทำให้ได้ทรวงอกที่สมดุลกับสรีระและตรงตามความต้องการของแต่ละคน ผู้เข้ารับการผ่าตัดควรทราบว่าการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมหน้าอก ชายเป็นหญิง ไม่สามารถเลียนแบบการผ่าตัดทรวงอกของผู้หญิงได้อย่างสมบูรณ์แบบ
วิธีการผ่าตัดเสริมหน้าอก ชายเป็นหญิง
1. ดมยาสลบ
2. เปิดแผลตามตำแหน่งที่เลือกไว้ การวางซิลิโคนเพื่อเสริมหน้าอกให้เป็นหญิงส่วนใหญ่มักอยู่ใต้กล้ามเนื้อ (95%) แม้ว่าการเสริมหน้าอกในหญิงข้ามเพศและผู้หญิงทั่วไปมีวิธีการผ่าตัดที่ไม่แตกต่างกันนัก แต่ลักษณะโครงสร้างทางกายภาพนั้นแตกต่างกัน กล้ามเนื้อของหญิงข้ามเพศนั้นจะตึงและมีไขมันน้อยกว่าผู้หญิง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับการเสริมหน้าอกให้เหมือนผู้หญิง จึงมีเทคนิคทางเลือกที่หลากหลายในการศัลยกรรมหน้าอกตามความต้องการของแต่ละบุคคล ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดควรทราบว่าการศัลยกรรมเสริมหน้าอก ชายเป็นหญิง ไม่สามารถเลียนแบบเต้านมของผู้หญิงอย่างสมบูรณ์แบบ
ระยะเวลาของการผ่าตัดเสริมหน้าอก ชายเป็นหญิง ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
การดูแลหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก ชายเป็นหญิง
- ระวังไม่ให้แผลผ่าตัดโดนน้ำ 2-3 วัน หลังผ่าตัด และต้องทำความสะอาดแผลทุกวัน
- ตัดไหมหลังผ่าตัดแล้ว 7 วัน
- มาพบแพทย์หลังผ่าตัดแล้ว 7 วัน 14 วัน และ 1 เดือน หรือตามที่แพทย์นัดหมาย
- ต้องนวดหน้าอกเพื่อป้องกันการแข็งตัวของเต้านม การนวดหน้าอกจะทำให้เต้านมมีรูปทรงสวยงาม โดยดันขึ้น ดันลง ดันออกด้านข้าง และนวดรอบเต้านมคล้ายท่าโม่แป้ง ควรนวดทุกวัน วันละ 1 ชั่วโมง อย่างน้อย 1 เดือน จนหน้าอกสามารถเคลื่อนไหวได้
- สวมใส่สปอร์ตบราเพื่อกดหน้าอกและให้รูปทรงเป็นธรรมชาติ ไม่ควรสวมเสื้อยกทรงที่มีโครงเหล็ก
- ห้ามยกของหนักเกิน 2-3 กิโลกรัม เพราะเต้านมเทียมจะลอยขึ้นจากตำแหน่งเดิม
- สามารถออกกำลังกายได้หลังผ่าตัดแล้ว 2 เดือน
ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน (Risk and Complication) ที่อาจเกิดหลังการเสริมอก ชายเป็นหญิง
- แผลบวม (Swelling)
- ฟกช้ำ (Bruising)
- มีเลือดคั่ง (Hematoma)
- มีเลือดออก (Bleeding)
- ติดเชื้อ (Infection)
- แผลสมานตัวช้า (Poor healing)
- เต้านมสองข้างอาจมีขนาด ตำแหน่ง และรูปทรงไม่เท่ากัน
- ปวดแผล (Pain) (สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้)
- มีแผลเป็น (Scarring)
- ความรู้สึกที่หัวนมอาจจะลดลงหรือหายไป (Decreased or Lost Sensation)
- มีโอกาสนมแข็ง (Capsular Contracture) อาจเป็นข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ได้
- ปัญหาที่เกิดจากเต้านมเทียม (Implant Failure) เช่น ร่างกายไม่ยอมรับเต้านมเทียมที่ใส่เข้าไป
- ความเสี่ยงจากผลข้างเคียงของการดมยาสลบ (Risk from anesthesia)
การพักฟื้นหลังผ่าตัด
หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก ชายเป็นหญิง คนไข้จะเจ็บบริเวณหน้าอก 2-3 วัน คนไข้สามารถรับประทานยาแก้ปวดอย่างแรงได้ คนไข้อาจรู้สึกเจ็บเมื่อเคลื่อนไหวร่างกายหลังผ่าตัด 2-3 วันแรก เนื่องจากกล้ามเนื้อหน้าอกฉีกขาดจากการผ่าตัด อาการเช่นนี้จะดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ คนไข้สามารถออกกำลังกาย และใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังผ่าตัดแล้ว 2 เดือน คนไข้ควรนวดหน้าอกทุกวันเพื่อป้องกันกล้ามเนื้อทรวงอกยึดติด ห้ามยกของหนัก เพราะจะทำให้เต้านมผิดตำแหน่ง
สาระน่ารู้: การเสริมหน้าอก ชายเป็นหญิง
ขั้นตอนการดูแลหลังเสริมหน้าอกให้สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว?
หลังการเสริมหน้าอก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และลดอาการแทรกซ้อนควรมีการดูแลอย่างดี การรฟื้นตัวของคุณก็จะขึ้นอยู่กับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
วิธีการนวดหน้าอก 7 ขั้นตอน หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก
การนวดหน้าอกหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก มีความสำคัญมาก เพราะมีโอกาสที่หน้าอกจะแข็งจากการยึดของผังผืด ซึ่งจะทำให้หน้าอกที่เสริมมาดูไม่เป็นธรรมชาติ แข็งเป็นบล็อค
เพิ่มความมั่นใจ ด้วยการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมหน้าอก
การมีรูปลักษณ์ที่ดี ชวนมอง เป็นความใฝ่ฝันของผู้หญิงทุกคน ที่จะมีรูปร่างสัดส่วนที่โค้งเว้าสวยงาม มีหน้าอก มีเอวคอดชวนหลงใหล แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดมาพร้อมความเพอร์เฟค
รูปก่อนและหลัง การเสริมหน้าอก ชายเป็นหญิง
ดูเพิ่มเติม ก่อนและหลังการเสริมหน้าอก
วีดิทัศน์: การเสริมหน้าอก ชายเป็นหญิง
ทำไมการผ่าตัดเสริมหน้าอก ชายเป็นหญิง จึงได้รับความนิยมมากที่สุด ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล กรุงเทพฯ
โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านการศัลยกรรมตกแต่ง และแปลงเพศที่น่าเชื่อถือของผู้คนทั่วโลก การผ่าตัดเสริมหน้าอก ชายเป็นหญิง ทำให้ร่างกายของหญิงข้ามเพศดูคล้ายผู้หญิงยิ่งขึ้น เพราะหน้าอกเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นผู้หญิง หญิงข้ามเพศต้องการมีหน้าอกที่สวยงามเพื่อให้รู้สึกมั่นใจ สบายใจ และปลอดภัยในสรีระร่างกายที่เหมือนผู้หญิง และเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกข่มขู่คุกคามทางเพศ การสร้างหน้าอกผู้หญิงสำหรับคนข้ามเพศ ชายเป็นหญิง เป็นเรื่องยาก เนื่องจากความแตกต่างด้านสรีระของผู้ชายและผู้หญิง แพทย์ศัลยกรรมตกแต่งที่มากด้วยประสบการณ์ เข้าใจพื้นฐานสรีระเดิม และชำนาญในการปรับเปลี่ยนสรีระให้เหมาะกับเพศที่ต้องการของโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล สามารถเปลี่ยนแปลงหน้าอกผู้ชาย (ไหล่กว้าง หัวนมเล็ก หน้าอกแบบราบ มีกล้าม ) ให้กลายเป็นหน้าอกผู้หญิง (มีเนื้อนมได้สัดส่วนสมดุลกับไหล่ที่กว้าง)
การออกแบบดีไซน์หน้าอก ชายเป็นหญิง ต้องวางตำแหน่งของซิลิโคนให้สัมพันธ์กับไหล่ เพื่อให้หน้าอกมีความหย่อนคล้อย และมีหัวนมในตำแหน่งที่เหมาะสม หน้าอกที่ได้หลังผ่าตัดควรดูเป็นธรรมชาติ โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลจะช่วยเลือกขนาดและรูปทรงของซิลิโคนร่วมกับคนไข้ เพื่อสร้างหน้าอกสำหรับคนข้ามเพศ ชายเป็นหญิง ที่งดงามที่สุด สมดุลกับสรีระที่มีมา ผลการผ่าตัดเสริมหน้าอก ชายเป็นหญิง ต้องทำให้หน้าอกมีรูปลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบและสมดุลย์กับร่างกายของคนไข้ เพื่อให้คนไข้มีความมั่นใจในการใช้ชีวิต
โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลให้บริการและการดูแลผู้ป่วยก่อนและหลังผ่าตัดอย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานสากล เพื่อให้คนไข้รู้สึกปลอดภัยและสะดวกสบายด้วยศัลยแพทย์ตกแต่งที่ผ่านการอบรมด้านนี้โดยเฉพาะ โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลใช้เทคนิคและเทคโนโลยีอันทันสมัยเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ศัลยแพทย์และทีมงานของโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลจะดูแลหลังผ่าตัดและช่วยให้คนไข้สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพร่างกายใหม่ ให้บริการนวดหน้าอก และสอนวิธีทำให้หน้าอกอ่อนนุ่ม แลดูเป็นธรรมชาติ
โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมลได้รับการรับรองมาตรฐาน JCI ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลกด้านคุณภาพการดูแล และสร้างความปลอดภัยของคนไข้ เพื่อให้คนไข้ได้รับการบริการอันเป็นเลิศของโรงพยาบาล